ถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โลกที่กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลก สำหรับสงครามในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เมื่อปี 1941 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่กองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สาเหตุของการโจมตี
สืบเนื่องมาจากสงครามจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 2 เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นได้บุกเข้ายึดครองดินแดนแมนจูเรียหลังเกิดกรณีมุกเดน (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้น)
เนื่องจากญี่ปุ่นได้เล็งเห็นผลประโยชน์ในดินแดนแมนจูเรียหลายประการ หลังจากยึดครองสำเร็จก็แต่งตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดให้อยู่ภายใต้การนำของจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยมีจักรพรรดิปูยี (อดีตจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง) ให้มาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นจักรพรรดิแห่งแมนจูเรียได้แต่เพียงในนามเท่านั้น
เรือรบยูเอสเอสชอว์ระเบิด ในระหว่างการจู่โจมที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในฮาวาย
เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่สาธารณรัฐจีนเป็นอย่างมากจึงได้ไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังสันนิบาตชาติ เวลาต่อมาสันนิบาตชาติดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นสันนิบาตชาติก็ได้ลงความเห็นเห็นว่า จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นฝ่ายผิดและเป็นผู้รุกราน จึงออกแถลงการณ์ลิตตัน เพื่อประณามการกระทำของญี่ปุ่นในการรุกรานแมนจูเรียและออกคำสั่งให้ญี่ปุ่นถอนกองทัพออกจากดินแดนแมนจูเรีย ทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจพร้อมประกาศถอนตัวออกจากสันนิบาตชาติไปทันที
นักบินญี่ปุ่นได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรือบรรทุกเครื่องบินก่อนการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
ขณะนั้นกองทัพจีนได้พ่ายแพ้กองทัพญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องจนแทบจะสิ้นชาติ แม้จะพยายามขอความช่วยเหลือจากหลายๆ ประเทศ แต่ก็ไม่มีใครยอมส่งกำลังมาช่วย ทันใดนั้นเองพวกเขาก็นึกออกว่ามีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่น่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้ นั่นก็คือสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นจีนจึงส่งขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐฯทันที แม้ว่าสหรัฐฯจะพยายามทำตัวเป็นกลางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามก็ตามแต่ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือกับจีนอย่างเต็มที่
เรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นซุยคาคุ ในเดือนกันยายนของปี 1941 โดยซุยคาคุ จะแล่นไปฮาวาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหกสายการบินที่ใช้ในการโจมตีโดยกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น
สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีรูสเวลท์ก็ได้ประกาศยุติการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น เช่น น้ำมัน เหล็ก เป็นต้น ทำให้ญี่ปุ่นขาดปัจจัยในการบำรุงกองทัพโดยเฉพาะน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่สงคราม
จักรวรรดิญี่ปุ่นจึงได้ส่งทูตไปเจรจากับสหรัฐฯเพื่อขอให้ส่งน้ำมันต่อ แต่ว่าการเจรจาก็ล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ ได้ยื่นคำขาดว่าให้ญี่ปุ่นยุติการยึดครองจีน และถอนกำลังออกจากอินโดจีนไป
นั่นทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ที่อยู่บริเวณของหมู่เกาะฮาวาย ซึ่งเป็นฐานทัพเรือสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นทะเลแปซิพิกอย่างลับๆ เพื่อเปิดเส้นทางการขยายอำนาจในภาคพื้นทะเลแปซิพิกแก่จักรวรรดิญี่ปุ่น
เครื่องบินเตรียมพร้อมที่จะออกจากเรือบรรทุกเครื่องบินอาคางิของจักรพรรดิญี่ปุ่นในระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ในวันที่ 7 ธันวาคม 1941
การโจมตีเริ่มขึ้น
การจู่โจมที่เพิร์ลฮาเบอร์ของญี่ปุ่นเริ่มขึ้นก่อนเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม ปี 1941 ภายในเวลา 1 ชั่วโมง เครื่องบินญี่ปุ่นจำนวน 350 ลำ ถูกนำออกมาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 230 ไมล์ ทางตอนเหนือของไอโอวา เพื่อทำการโจมตีฐานทัพเรือ
ถ่ายภาพจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่ถ่ายโดยกองกำลังอเมริกันบนเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่น ซุยคาคุ ขณะที่เครื่องบินทิ้งระเบิด B-5N ของเครื่องบินนากาจิมา “Kate” เพื่อโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ในวันที่ 7 ธันวาคม 1941
กองทัพญี่ปุ่นได้ทำลายเรือรบสหรัฐฯ รวมทั้งเครื่องบินของสหรัฐฯ ในสนามบินบนเกาะด้วย และส่งผลให้ทหารและพลเรือนชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 2,403 คน
เปรียบเทียบกับญี่ปุ่นแล้ว มีความเสียหายค่อนข้างเบา เพราะญึ่ปุ่นสูญเสียเรือเพียง 29 ลำ เรือดำน้ำขนาดเล็กอีกไม่กี่ลำ และมีทหารเสียชีวิตเพียง 68 คนเท่านั้น
ภาพทางอากาศของระเบิดที่ถูกทิ้งบนเรือของกองทัพอเมริกัน ซึ่งถ่ายจากเครื่องบินญี่ปุ่นที่บินเหนือเพิร์ลฮาร์เบอร์
ถ่ายภาพญี่ปุ่นที่ถ่ายได้ระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ วันที่ 7 ธันวาคม ปี 1941 โดยมีควันลอยขึ้นจาก Hickam Field
เรือรบแอริโซนาไหม้ขณะที่มันจมอยู่ในเพิร์ลฮาร์เบอร์หลังการโจมตีโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี 1941
เครื่องบินทิ้งระเบิดของญี่ปุ่นที่กำลังดิ่งลงน้ำ เป็นภาพที่ถ่ายโดยโดยช่างภาพของกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพิร์ลฮาร์เบอร์
เครื่องบินญี่ปุ่นที่สามารถมองเห็นจากเครื่องบินที่อยู่เหนืออ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ในภาพคือช่วงเวลาเริ่มต้นของการโจมตีญี่ปุ่น
เรือรบอเมริกันกำลังมีเพลิงไหม้หลังจากถูกญี่ปุ่นโจมตี
ภาพระยะไกล แสดงเห็นอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ที่เต็มไปด้วยควันไฟ
เมื่อเห็นควัน ได้ยินเสียงระเบิด ผู้หญิงสองคนนี้รู้ทันที่ว่าเกิดสงคราม พวกเขาจึงวิ่งไปยังที่หลบภัยทันที
ภาพจากบนอากาศ ถ่ายโดยนักบินญี่ปุ่นระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ โดยเครื่องบินที่อยู่ด้านขวาล่างเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดของญี่ปุ่น
กะลาสียืนอยู่ท่ามกลางเครื่องบินอับปางที่สถานี Ford Island Naval Air และยืนดูการระเบิดของเรือรบยูเอสชอว์ ที่ถูกโจมตีโดยญี่ปุ่น
ธงของสหรัฐอเมริกากำลังหล่นออกจากท้ายเรือรบยูเอสเอส เวสท์ เวอร์จิเนีย หลังจากการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
เครื่องบิน A6M2 Zero บนเรือ Imperial Japanese Navy ระหว่างภารกิจโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
เรือรบยูเอสเอสชอว์ที่มีเพลิงไหม้ หลังจากถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดญี่ปุ่นชนส่วนหน้าของเรือพร้อมด้วยระเบิดสามลูก
เรือรบยูเอสเอสแคลิฟอร์เนียกำลังจมลงไปในอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์
เรือลำเล็กกำลังช่วยลูกเรือยูเอสเอส เวสท์ เวอร์จิเนียร์หลังถูกเครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่
ภาพจากนิตยสาร ขณะเรือยูเอสเอส แอริโซน่าถูกญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่ ถ่ายบนเรือยูเอสเอส โซเลซ
เครื่องบินญี่ปุ่นในฮาวายระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
กะลาสีเรือจาก Naval Air Station (NAS) พยายามกู้เครื่องบิน PBY Catalina ที่กำลังถูกเผาไหม้จากการโจมตี
เรือรบยูเอสเอส เวสท์ เวอร์จิเนีย และ ยูเอสเอส เทนเนสซี ถูกเผาหลังการโจนตีจากญี่ปุ่น
น้ำมันไหม้ในน่านน้ำของเพิร์ลฮาร์เบอร์ อยู่ใกล้สถานีของกองทัพเรือ
เรือรบยูเอสเอส แมรี่แลนด์ จอดอยู่ด้านในของเรือยูเอสเอส โอกลาโฮมา ถูกโจมตี จนได้รับความเสียหาย
ควันขนาดใหญ่ลอยออกมาจาก เรือรบยูเอสเอส แอริโซน่า ขณะจมลงสู่อ่าวเพิร์ลฮาเบอร์
ภาพจากทำเนียบขาวหลังได้ข่าวจาก Stephen T. Early ว่าเรือดำน้ำและเครื่องบินของญี่ปุ่นได้ทิ้งระเบิดใส่กองทัพเรือสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เพิร์ลฮาร์เบอร์รัฐฮาวาย
การขายหนังสือพิมพ์ที่ไทม์สแควร์ ในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งเป็นข่าวที่เกี่ยวญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
สหรัฐประณามการโจมตีของญี่ปุ่นโดยไม่มีการประกาศให้รู้ตัวก่อน ประธานาธิบดีสหรัฐแฟรงคลิน ดี.รูสเวลต์ ขอให้รัฐสภาประกาศสงครามกับญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1941
ประธานาธิบดีรูสเวลต์ลงนามประกาศสงครามหลังจากการทิ้งระเบิดในเพิร์ลฮาร์เบอร์ของญี่ปุ่นที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน เมืองโคลัมเบีย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1941
ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นรวมหลายคนรุมล้อมรถสำนักข่าวของญี่ปุ่นในซานฟรานซิสโก
เรือวางทุ่นยูเอสเอสโอกลาล่าล่ม หลังจากถูกโจมตีโดยเครื่องบินญี่ปุ่นและเรือดำน้ำ ระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
เรือยูเอสเอสดาวน์ และ ยูเอสเอสแคสซิน ที่ประจำการอยู่ที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ได้รับความเสียหายนักหลังจากที่ญี่ปุ่นโจมตีหมู่เกาะฮาวายเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941
ภาพภายในของเครื่องบินโดยสารที่ถูกทำลายที่ Wheeler Field ในฮาวายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1941
กองทัพเรือสหรัฐที่อยู่ห่างจากเพิร์ลฮาร์เบอร์ประมาณ 8 ไมล์ มีเศษกระสุนจากเครื่องบินของญี่ปุ่นพุ่งเข้าไปในรถคันนี้และฆ่าพลเรือน 3 คนในการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ศพ 2 ใน 3 ถูกพบที่เบาะหน้า
ซากปรักหักพังของเครื่องบินญี่ปุ่นที่ถูกทำลายในระหว่างการโจมตีเพอร์ฮาร์เบอร์
เรือดำน้ำขนาดเล็กของญึ่ปุ่นถูกลำลายเพียงไม่กี่ลำเท่านั้น
ฝูงชนกำลังตรวจสอบความเสียหายทั้งภายในและภายนอกหลังจากที่ระเบิดญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีที่พักของ Paul Goo ระหว่างการโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941
สถานกงสุลญี่ปุ่นได้เริ่มเผาเอกสาร บัญชีและบันทึกอื่น ๆ หลังจากที่ญี่ปุ่นโจมตีสหรัฐฯ เพียงไม่นาน ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนา ก่อนจะตำรวจจะเข้ามาดับ แต่เอกสารก็เสียหายไปมากแล้ว
ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้หันมาเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนสถานกงสุลญี่ปุ่นในชิคาโกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 1941
เขามีท่าทีตกใจเน่ื่องจากกำลังจะนำเอกสารที่บัญชีลับในสถานกงสุลที่ถูกเผาไปจำนวนหนึ่ง
ตามธรรมเนียมของชาวฮาวาย กะลาสีเรือได้สร้างสถานที่เพื่อระลึกถึงคนที่จากไปในระหว่างการโจมตี
ภาพทางอากาศที่แสดงให้เห็นน้ำที่มีคราบน้ำมันปนเปื้อนและฐานทัพเรือสหรัฐฯ ที่เพิร์ลฮาเบอร์ ในฮาวายหลังจากการโจมตีของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1941
ถือว่าเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของโลกที่ควรค่าแก่การศึกษาสำหรับชนรุ่นหลังนะคะ
ที่มา rarehistoricalphotos
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น