บางคนอาจจะทราบกันดีว่าปรากฎการณ์ดราม่าแห่งการหุงข้าวและทำข้าวผัดไข่จากพิธีกรรายการอาหารของ BBC นั้น โดนวิจารณ์จากชาวเน็ตเอเชียเป็นจำนวนมากถึงวิธีการทำที่ผิดและแปลกไปจากวัฒนธรรมการทำอาหารของชาวเอเชีย
Hersha Patel คือหญิงพิธีกรที่ปรากฎอยู่ในรายการดังกล่าว ต้องรับมือกับคำวิจารณ์จากชาวเน็ตที่ตามมาถล่มด่าทุกช่องทางโซเชียลของเธอ จากการที่เธอเพียงแค่ทำตามสคริปรายการที่ถูกวางเอาไว้เท่านั้น…
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นดราม่าหุงข้าวกับข้าวผัดไข่ครั้งนี้ เกิดจากการที่ดาวตลกชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ Nigel Ng หรือ Uncle Roger (ลุงโรเจอร์) ทำคลิปรีแอคชั่นกับการทำข้าวผัดไข่ของ Hersha และได้รับความสนใจจากชาวเอเชียทั่วโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม
เนื้อหาที่ลุงโรเจอร์วิจารณ์ไปนั้นเป็นเพียงทัศนคติที่สะท้อนวิถีการทำข้าวผัดไข่ของชาวเอเชียส่วนใหญ่ เป็นการเสียดสีด้วยอารมณ์ขันมากกว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีใดๆ ทั้งสิ้น
ผลที่ตามมาก็คือวิดีคลิปทำข้าวผัดไข่จากปี 2019 ก็กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในปี 2020 จากการหุงข้าวที่ผิดแปลกไปจากครัวของชาวเอเชีย
เธอถูกชาวเน็ตตำหนิในจุดยิบย่อยต่างๆ เช่นไม่ล้างข้าวก่อนหุง ใช้น้ำก็อกหุงข้าว หุงเสร็จก็เอามาล้างทีหลังด้วยผ่านกระชอน แบบว่าไม่ถูกจริตการทำครัวของชาวเอเชียเลยแม้แต่น้อย
Hersha เปิดใจถึงกรณีนี้กับทางเว็บไซต์ Nextshark ว่าเธอเพียงแค่ทำตามสคริปที่รายการของ BBC จัดมาไว้ให้เท่านั้น นั่นก็คือการทำเมนูสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเข้าครัวและมีอุปกรณ์ครัวจำกัด
“บรีฟรายการก็แบบว่า เป็นสูตรสำหรับมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาหรืออุปกรณ์ครัวไม่เยอะมาก และส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ชมฝั่งครัวตะวันตก”
ซึ่งกระแสตอบรับของเมนูข้าวผัดไข่แบบ Hersha นั้นได้รับกระแสดีตามปกติหลังจากที่ปล่อยคลิปวิดีโอออกไปแล้ว และมันก็ไม่ได้ดังระเบิดแบบมีคนสนใจจากทั่วโลกอะไรขนาดนั้น
ทว่าคลิปดังกล่าวก็ถูกจุดกระแสขึ้นมาจากคลิปของลุงโรเจอร์ที่มานั่งล้อเลียนตั้งแต่วิธีการหุงข้าว ยันไปถึงการใช้กระทะต่างๆ
“ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกดีค่ะ มันกลายเป็นเหมือนใบอนุญาตให้คนสาธารณะคิดว่ามีสิทธิที่จะเข้ามาต่อว่าฉันได้ ซึ่งมันก็ยากลำบากเหมือนกันนะ”
วิดีคลิปของลุงโรเจอร์ไม่เพียงแต่จะได้รับความสนใจจากชาวเอเชียส่วนใหญ่แล้ว มันก็ยังดึงดูดให้พวกเกรียนคีย์บอร์ดจากทั่วโลก ตามมารังควานตามวิจารณ์ด่าสูตรข้าวผัดไข่ของเธอ และลุกลามไปจนถึงโดนทัวร์ลงบนทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย
“เริ่มมีเกรียนคีย์บอร์ดตามมาด่าทุกช่องทางโซเชียลเลย วิจารณ์ดูถูกเหยียดหยามแทบทุกอย่าง มันน่ากลัวมากนะคะ ที่คนหลายพันคนกำลังโจมตีทุกช่องทางของฉันคนเดียวเลย”
แต่ภายหลังจากนั้นไม่นานลุงโรเจอร์กับ Hersha ก็ได้นัดแนะเจอกันเพื่อร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ เผชิญหน้ากับทั้งแฟนคลับและคนที่เกลียดเธอ
“มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวในตอนแรกนะ เมื่อคลิปวิดีโอที่เราได้ร่วมงานกันเปิดตัวออกไป ฉันรู้สึกไม่ดีว่ามันอาจจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก แต่กลับกันคนรู้สึกชอบมันมากกว่า”
คลิปวิดีโอได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ จากผู้ชมที่คอยช่วยและเอาใจช่วยเธออยู่ ชาวเน็ตส่วนนี้ก็ช่วยกันปกป้องเธอจากพวกไม่ประสงค์ดีเช่นกัน
“ท้ายที่สุดแล้ว ฉันรู้สึกยินดีที่มันเกิดขึ้น ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ลุงโรงเจอร์กับฉันร่วมกันก้าวข้ามคำวิจารณ์และเปลี่ยนพลังลบให้เป็นพลังบวกได้”
“มันมหัศจรรย์มากที่ได้เห็นโพสต์แรกๆ เปลี่ยนกระแสจากความเกลียดชังให้กลายเป็นความรักและความเมตตาได้ ฉันรู้สึกตื้นตันกับข้อความจำนวนมากที่คนเขียนส่งมาให้ฉัน บอกว่าฉันเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการกับการคุกคามออนไลน์ ฉันรู้สึกตื้นตันจากใจจริงค่ะ”
อย่างไรก็ตาม แม้จะเปลี่ยนจากกระแสลบให้กลายเป็นบวกได้ก็ยังคงมีคำวิจารณ์ตามมาอยู่ดี จากการที่เธอกลายเป็นบุคคลสาธารณะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเธอเองก็ต้องจัดการปัญหานี้ด้วยพลังบวก
“ทุกสิ่งทุกอย่างกลายมาเป็น Cancel Culture (ทำให้อับอายบนอินเทอร์เน็ต) ไซเบอร์บูลลี่ และปัญหาสุขภาพจิตที่กระทบกับตัวฉันเลย การไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งก็ยอมรับได้นะ
ฉันรู้สึกดีมากที่ Nigel ประสบความสำเร็จ แต่การคุกคามบนโซเชียลหนักแบบนี้ทำลายชีวิตคนได้เลย และฉันก็อยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่น แม้ว่าฉันจะรู้สึกกลัวและอยากจะหนีก็ตามที”
“ความเมตตา อารมณ์ขัน การไม่รู้สึกโกรธ เกลียด และต่อต้าน คือสิ่งที่ฉันยึดมั่นอยู่เสมอ และผลลัพธ์ของมันก็ดีมากๆ เลย ลุงโรเจอร์กลายมาเป็นเพื่อนของฉันแล้ว และเราจะช่วยกันสร้างพลังบวกหลังจากนี้ต่อไป”
ที่มา:
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น