สาวออซซี่ปวดหัวไมเกรนอย่างแรงเลยนอนพัก ตื่นมาพูดติดสำเนียงไอริชเฉยเลย

เคยคิดกันหรือไม่ว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกเยอะแยะเลยทีเดียว ทั้งพืชและสัตว์พันธุ์ใหม่ๆ หรือใต้ทะเลลึกที่ว่ากันว่ามนุษย์เรายังสำรวจไปได้ไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ

อย่าว่าแต่การสำรวจพื้นที่ที่ไกลโพ้น หรือลึกจนแสงส่องไม่ถึงเลย แม้แต่ “ร่างกาย” ของมนุษย์เราเองยังเต็มไปด้วยปริศนาอันน่าทึ่งมากมาย

เรื่องราวสุดแปลกนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 30 ปี ชื่อว่า Kate Baggs เธอมีโรคประจำตัวเป็นไมเกรน ที่ทำให้เธอมักจะต้องทรมานกับอาการปวดหัวเมื่อมีสิ่งกระตุ้นเช่น ความเครียด แสงจ้า หรืออากาศร้อน

วันหนึ่งไมเกรนของ Kate ก็กำเริบขึ้นมา และมันรุนแรงมากๆ จนเธอขยับร่างกายซีกหนึ่งไม่ได้เลยทีเดียว เธอไม่มีทางเลือกนอกจากนอนหลับพักผ่อนไปบนเตียง

หลังจากอาการกำเริบครั้งนั้น เธอก็ออกไปชอปปิงซื้อของกับคุณยายที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ขณะกำลังเลือกซื้อแปรงสีฟันและคุยกับคุณยายอยู่นั้น จู่ๆ สำเนียงการพูดของเธอก็กลายเป็นสำเนียงไอริชไปตอนท้ายประโยค

คุณยายของเธองงหนักมาก เธอนึกว่าหลานสาวพูดเลียนแบบตัวละครในภาพยนตร์สักเรื่องที่เคยดูด้วยกัน แต่เปล่าเลย… Kate เปลี่ยนกลับมาพูดสำเนียงปกติของตัวเองไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงจะหาย

เธอบอกว่า “ฉันควบคุมมันไม่ได้เลย แต่ก็คิดว่ามันตลกดีนะ”

Kate เริ่มปวดหัวไมเกรนมาตั้งแต่ปี 2015  ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นกับเธอมันรุนแรงมากๆ จนเกิดทำให้เกิดภาวะอัมพาตครึ่งซีกเป็นระยะเวลาสั้นๆ ส่งผลกับกล้ามเนื้อร่างกาย และความสามารถในการพูดด้วย

สมัยก่อนเธอเคยอาการกำเริบแล้วผลข้างเคียงทำให้เธอต้องฝึกวิธีออกเสียงใหม่เลย เธอต้องใช้เวลาฝึกพูดใหม่หมดเป็นเวลาถึง 2 เดือนด้วยกัน แล้วพอเธอกลับมาพูดได้ ก็ดันติดสำเนียงชาวแคนาดามาด้วยซะงั้น

ในครั้งนั้นเธอติดสำเนียงแคนาดานานราว 2 เดือน ก่อนที่สำเนียงจะเปลี่ยนกลับมาเป็นออสเตรเลียเหมือนเดิม

หญิงสาวเคยเข้าตรวจสมองดูหลายครั้ง และผลก็ออกมาว่าสมองของเธอไม่มีอะไรผิดปกติ สิ่งที่เธอทำได้คือพบแพทย์ และรับยามาทานตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น

เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง

ที่มา LADbible และ NewsNation