CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

อดีตทหารออสซี่ถือไรเฟิลบุกเข้าศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อตามหา ‘น้องแมว’ ของตัวเองที่หายไป

สุนัขกับน้องแมวเป็นเพื่อนคู่ใจของมนุษย์มานานหลายร้อยปี และถ้าหากว่าน้องหมา น้องแมวของเราบังเอิญหายไปจากบ้านก็เชื่อว่าหลายคนต้องกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าบางครั้งความกระวนกระวายใจเหล่านั้นมันกลับสร้างความโกลาหล เช่นเดียวกับกรณีของอดีตทหารนายนี้…

 

 

ในช่วงเวลา 22:30 น. ในโซนตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย Tony Wittmann วัย 44 ปี อดีตทหารชาวออสเตรเลีย ได้บุกเข้าไปยังสถานพักพิงสัตว์เลี้ยง

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแต่งชุดทหารแบบจัดเต็ม พร้อมถือปืนไรเฟิลเข้ามาเล็งและข่มขู่พนักงานหญิงในศูนย์ จากนั้นก็จับเธอคุกเข่า มัดมือมัดเท้า ก่อนจะกล่าวว่า

“ทำตามที่ผมบอกแล้วผมจะไม่ยิงคุณ…

แมวถูกขังเอาไว้ที่ไหน?”

 

 

เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมเขาได้ในเวลาต่อมา โทนี่ถูกตั้งข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยวและขโมยอาวุธ

แต่สุดท้ายศาลก็ต้องกุมขมับกับเหตุผลที่เขาบุกเข้าศูนย์พักพิงสัตว์ในยามวิกาลแบบนี้ เพราะเขาต้องการ ‘น้องแมว‘ ของตัวเองคืนค่ะ

จากการสอบสวนพบว่า แมวของโทนี่หายออกจากบ้านไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนแจ้งว่าแมวของเขาอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งนี้และขอให้เขามารับน้องในวันรุ่งขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าโทนี่จะฉุนจัดที่ต้องรอ 10 ชั่วโมง เพื่อพบน้องแมวของตัวเอง เขาเลยบุกเข้าศูนย์พักพิงเพื่อชิงตัวแมวของตนกลับมาซะเลย

ทางด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้การว่า โทนี่บุกเข้ามาพร้อมกับอาวุธปืนแบบที่หน่วยสวาตในหนังใช้ และตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่าหากไม่ทำตามคำสั่งเขาจะยิงทุกคน จากนั้นเขาก็เอาแต่ถามว่าแมวทั้งหมดถูกขังเอาไว้ที่ไหน

 

 

น่าเสียดายมากค่ะที่ตามรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่าโทนี่สามารถชิงตัวน้องแมวของตัวเองกลับมาไว้ในอ้อมอกได้หรือเปล่า แต่ในตอนนี้โทนี่ถูกสั่งไม่ให้ประกันตัว

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบหลักฐานอื่นๆ ว่าเขาได้ทำการรวบรวมอาวุธไว้อีกมากมาย แถมยังสั่งอาวุธมาไว้ที่บ้านอีกเป็นจำนวนหนึ่ง

ซึ่งทางด้านทนายความของโทนี่ก็ได้กล่าวกับศาลว่า ตัวของโทนี่เองได้รับบาดเจ็บทางร่างกายบ่อยครั้งในตอนที่เป็นทหารและต้องเผชิญกับภาวะเครียดฉับพลันหลังการบาดเจ็บ

ทำให้ในตอนนี้ศาลยังไม่มีการตัดสินว่าโทนี่จะได้รับโทษอย่างไร โดยคำตัดสินจะออกมาในเดือนเมษายนนี้ค่ะ

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: vice, nydailynews

Comments

ใส่ความเห็น