กลายเป็นข่าวที่สร้างความแตกตื่นให้กับโลกออนไลน์อีกข่าวหนึ่งไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN ได้มีการออกมารายงานว่า
ที่ประเทศจีนสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพของหลานโจว เมืองหลวงของมณฑลกานซูได้ออกมายืนยันว่า
มีคนในพื้นที่อย่างน้อย 3,245 รายถูกตรวจพบว่าติด “โรคบรูเซลโลซิส” จากเหตุ การรั่วไหลของเชื้อแบคทีเรียบรูเซลลา ซึ่งเกิดขึ้นจากบริษัทชีวเภสัชกรรมในพื้นที่ เมื่อช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา
การเปิดเผยในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากทางคณะกรรมการสุขภาพของเมืองได้เข้าตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 21,847 รายจากประชากรทั้งหมด 2.9 ล้านคน โดยยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
โดยคนส่วนใหญ่ที่มีผลตรวจเป็นบวกนั้น คาดว่าติดโรคนี้มาจากปศุสัตว์อย่างโคนมที่ติดเชื้อแบคทีเรียบรูเซลลา โดยผ่านทางการทานอาหารหรือกิจกรรมอื่นๆ อีกทีอีกที
โรคบรูเซลลาซิสนั้น บ้างครั้งก็ถูกเรียกว่า “โรคแท้ง” หรือ “โรคแท้งติดต่อ” จากการที่มันมักจะทำให้ปศุสัตว์แท้งลูกในช่วงท้ายของการตั้งท้อง
ในกรณีที่โรคนี้ติดในคนโรคบรูเซลโลซิสมักจะมีอาการโดยทั่วไปคือผู้ป่วยจะมีไข้เป็นระยะๆ เป็นเวลานาน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก หนาวสั่น หรือปวดตามร่างกาย ซึ่งโดยปกติจะต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน

อ้างอิงจากสำนักข่าวต่างประเทศ การรั่วไหลของเชื้อแบคทีเรียในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทชีวเภสัชกรรม Zhongmu Lanzhou ได้เผลอใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่หมดอายุแล้ว
ทำให้เชื้อบรูเซลลาที่ปกติใช้ในการผลิตยารักษาโรคบรูเซลลาซิสในสัตว์เอง ถูกสังหารไม่สมบูรณ์และกระจายออกไปตามก๊าซของเสียอีกที
ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมาทางโรงงานได้ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ และได้ “รับโทษรุนแรง” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ทางโรงพยาบาลในเมืองเองก็เปิดให้ผู้ติดเชื้อสามารถเข้ารักษาตัวแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย

นับว่าเป็นโชคดีมากที่โรคดังกล่าวนี่ตามพื้นฐานจะติดจากคนสู่คนได้ค่อนข้างยาก และผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวก็มักจะไม่รุนแรงขึ้นขั้นเสียชีวิต
ดังนั้นทางคณะกรรมการสุขภาพเมืองหลานโจว จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้จะได้ แม้ในรายงานจะไม่ได้ระบุว่าผู้เสียหายจะได้รับค่าชดเชยใดๆ จากเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น