CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

พนักงานร้านเบเกอรี่ทำงานมากว่า 44 ปี “โดนไล่ออก” เพราะจ่ายเงินผ่านบัตรแทนลูกค้าสูงอายุ

ปัจจุบัน ร้านค้าหลายแห่งในต่างประเทศเริ่มใช้มาตรการ ‘ไม่รับเงินสด’ รับเฉพาะการจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19

ร้าน Birds Bakery ในเขตนอตติงแฮมเชอร์ สหราชอาณาจักร ที่นี่เองก็ถือเป็นอีกแห่งที่ใช้มาตรการดังกล่าว แต่ทว่ามันกลับส่งผลกระทบต่อลูกค้าจำนวนหนึ่งจนทำให้พนักงานหญิงภายในร้านไม่อาจทนนิ่งเฉยได้

 

ร้าน Birds Bakery

 

Megan Metcalfe พนักงานหญิงวัย 60 ปี เธอบอกว่าเธอทำงานร้านนี้มานานกว่า 44 ปี และเป็นผู้จัดการร้านมากว่า 25 ปีแล้ว ทำให้เธอเห็นการเปลี่ยนแปลงของร้านมาโดยตลอด

เธอบอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านมักจะเป็นผู้สูงอายุ และเมื่อมีมาตรการไม่รับเงินสดออกมาปุ๊บ มันก็ส่งผลกระทบต่อลูกค้ากลุ่มนั้นในทันที เพราะลูกค้าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิต

มาตรการดังกล่าวจึงทำให้บ่อยครั้งที่ Megan ต้องเห็นลูกค้าบางคนเดินออกไปมือเปล่า ทั้งๆ ที่พวกเขาเลือกสินค้ามาวางตรงเคาน์เตอร์เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีบัตรเครดิตเอาไว้จ่าย

 

 

เมื่อเห็นอย่างนั้น Megan จึงอาสารับเงินสดจากลูกค้าเหล่านั้น และใช้บัตรของเธอจ่ายแทนพวกเขา เธอช่วยลูกค้าอย่างนี้บ่อยมาก แม้จะจำไม่ได้ว่ากี่คน แต่เธอก็เป็นตัวกลางจ่ายแทนลูกค้าไปรวม 180 ปอนด์ (ราว 7,362 บาท)

“เงินไม่มีการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบ ฉันแค่รับเงินจากลูกค้ามาเข้ากระเป๋าตัวเอง จากนั้นก็ใช้บัตรของฉันจ่ายเงินให้กับพวกเขา และเก็บใบเสร็จมาให้ลูกค้าดูว่าฉันจ่ายไปตามจำนวนที่ได้รับมาจริงๆ ก็แค่นั้น”

 

แต่สิ่งที่เธอทำมันกลับทำให้เธอถูกไล่ออก…

 

Megan อธิบายความรู้สึกหลังจากที่เพิ่งถูกไล่ออกมาจากร้านที่ทำงานมานานกว่า 44 ปี ว่า

“ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่ฉันทำเหมือนเป็นการค้านมาตรการบริษัท แต่ฉันก็เสียใจกับการลงโทษที่ได้รับ ฉันแค่อยากทำสิ่งที่ถูกต้อง

ฉันรู้ว่าไม่ควรทำอย่างนั้น แต่ฉันจะทนเห็นลูกค้าสูงอายุที่เคยมาร้านเราทุกวันต้องเดินออกไปมือเปล่าทั้งๆ ที่พวกเขาเลือกสินค้าเสร็จแล้วอย่างนั้นน่ะหรือ?”

 

 

Lesley Bird ประธานบริษัทเจ้าของกิจการร้านเบเกอรี่แห่งนี้ กล่าวว่า ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยหลักที่ทางร้านเอาใจใส่อย่างจริงจัง

“ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นผู้สูงอายุ พวกเขามีร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนในกลุ่มอื่น มันจึงเป็นความรับผิดชอบของพวกเราที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของทั้งพนักงานและลูกค้าทุกคน

เราไม่รับเงินสดก็เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อไวรัสที่อาจส่งต่อมาผ่านธนบัตรหรือเหรียญ มันคือความเสี่ยงต่อพนักงานของเราที่เป็นคนรับเงิน”

Lesley บอกด้วยว่า การที่ Megan รับเงินสดจากลูกค้ามาแบบนั้นมันคือการสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ถือว่าเธอทำผิดทั้งมาตรการของทางร้านและมาตรการความปลอดภัยในช่วงแพร่ระบาด

 

 

จากรายงานวันที่ 31 กรกฎาคม 2020 ตอนนี้ได้มีการล่ารายชื่อในเว็บไซต์ Change.org เพื่อขอให้ Megan ได้กลับไปทำงานเดิมของเธอ

อย่างไรก็ตาม จากคำพูดของทางร้านที่ออกมาชี้แจงนั้น เป็นไปได้ยากมากที่เธอจะกลับไปทำงานที่ร้านได้ เนื่องจากทำผิดมาตรการโดยตรง

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: Unilad , Metro


Posted

in

,

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น