กลุ่มอาการออทิสติกนั้นยังไม่มีการประกาศแน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่ แต่มีการคาดกันว่าน่าจะเป็นความผิดปกติของยีน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยนั้นมีปัญหาในด้านการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
หลายคนอาจจะเคยคิดว่าเมื่อเป็นออทิสติกจะทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติหรือเข้าสังคมได้ แต่จริงๆ แล้วผู้ป่วยออทิสติกนั้นสามารถทำได้เหมือนคนปกติเลย แค่ต้องมีการดูแลและเรียนรู้ที่ต่างออกไป
และเมื่อเป็นเรื่องของความรู้สึกที่มีต่อคนที่รักแล้ว ไม่ว่าใครๆ ก็มีได้มากไม่แพ้กัน รวมทั้งผู้ป่วยออทิสติกก็เช่นกัน อย่างเช่นคุณพ่อของสาว Hayley Elliott
Hayley นั้นรู้สึกเสมอว่าคุณพ่อของเธอมีอะไรบางอย่างที่ต่างไปจากคนทั่วๆ ไป แต่เธอก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอะไร จนกระทั่ง 5 ปีก่อน คุณพ่อ Martin ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยในกลุ่มอาการออทิสติก
ซึ่งก่อนหน้านี้ตลอดชีวิตของคุณพ่อนั้นถูกเข้าใจผิดว่าเขามีอาการของโรคทางจิตเภท หมายความว่า Martin ไม่เคยได้รับการดูและช่วยเหลือที่ผู้ป่วยออทิสติกควรจะได้รับมาก่อนเลย
ในหมู่ผู้ป่วยออทิสติกจะมีความยากลำบากในการแสดงออกด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันไป Martin เองก็มีปัญหาในด้านการแสดงความรู้สึกของตนเองออกมาตรงๆ ซึ่งเขามักจะถ่ายทอดออกมาทางดนตรีและเรื่องตลกแทน
ตัว Hayley เองก็แทบจะไม่เคยเห็นคุณพ่อของเธอแสดงความรู้สึกออกมาแบบตรงๆ เลย แต่แล้วเมื่อราวเดือนก่อน Hayley ก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกับคนรักของเธอ
คุณพ่อก็รับหน้าที่จูงมือเจ้าสาวเดินผ่านทางเดินไปหาเจ้าบ่าวเพื่อเข้าพิธี และเต้นรำกับลูกสาวในงาน ชายคนใดที่มีลูกสาวก็คงพอจะนึกออกว่ามันเป็นวินาทีที่ความรู้สึกมากมายเอ่อล้นในตัว ทั้งดีใจ ภูมิใจ และกังวล ปะปนกันไป
Hayley ที่ไม่ค่อยเห็นคุณพ่อแสดงความรู้สึกในใจเพราะโรคที่ท่านเป็น กลับพบว่า Martin นั้นได้หลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มใจออกมาตอนเต้นรำกับเธอ
และเป็นโชคดีที่ช่างภาพสามารถจับภาพในตอนนั้นเอาไว้ได้ด้วย เธอรู้สึกมีความสุขเอามากๆ จนเอาเรื่องราวนี้มาแชร์ในเฟซบุ๊ก โดยบอกว่า
“พ่อของฉันเป็นออทิสติก เขาเลยแสดงความรู้สึกได้ไม่เก่ง เพราะงั้นรูปนี้จะเป็นรูปที่ฉันจะทะนุถนอมและรักษาเป็นอย่างดีตลอดชีวิตเลยค่ะ”
นอกจากนี้ Hayley ยังเล่าให้ทาง Unilad ฟังอีกว่า นอกจากในงานแต่งแล้ว เธอเคยเห็นพ่อของเธอร้องไห้แค่ครั้งเดียวคือตอนสุนัขของครอบครัวเสียชีวิต
รูปภาพรูปนี้คงสามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่า ความเชื่อที่ว่าผู้ป่วยออทิสติกไม่รู้สึกเห็นใจผู้อื่นและไม่แสดงความรู้สึกนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย
พวกเขารู้สึกแบบที่พวกเราทุกคนรู้สึก บางครั้งความรู้สึกอาจจะรุนแรงกว่าด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่าพวกเขาถ่ายทอดมันออกมาในแบบของตัวเองเท่านั้นเอง
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ที่มา Unilad
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น