ลึกลงไปใต้ผืนน้ำของทะเลบอลติกตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1957 เป็นต้นมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ ศูนย์วิจัยมหาสมุทร “GEOMAR Helmholtz Centre” ได้ทำการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมใต้น้ำ จากอุปกรณ์สังเกตการณ์และส่งสัญญาณขนาดใหญ่ชื่อ “Boknis Eck” ที่มีน้ำหนักกว่า 740 กิโลกรัมเรื่อยมา
แต่แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องพบกับเรื่องประหลาด เมื่ออุปกรณ์สังเกตการณ์ จู่ๆ ก็เกิดหยุดการส่งสัญญาณไปอย่างมีปริศนา
รูปร่างหน้าตาของอุปกรณ์สังเกตการณ์ Boknis Eck
ในช่วงแรกที่เหตุการณ์เกิดขึ้น ทาง GEOMAR ได้คาดการไว้ว่าด้วยอายุของอุปกรณ์สังเกตการณ์ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตัวส่งสัญญาณจะเกิดปัญหาขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตามเมื่อทีมนักว่ายน้ำของศูนย์วิจัยทำการดำน้ำลงไปสำรวจอุปกรณ์สังเกตการณ์ พวกเขาก็ต้องพบกับเรื่องไม่น่าเชื่อทันที
นั่นเพราะอุปกรณ์สังเกตการณ์ Boknis Eck ที่ขนาดใหญ่พอๆ กับรถคันหนึ่งเลยนั้น ในปัจจุบันได้หายไปอย่างลึกลับ ทิ้งไว้เพียงสายเคเบิลที่ฉีกขาดเท่านั้น
อ้างอิงจากข้อมูลของ GEOMAR อุปกรณ์สังเกตการณ์ Boknis Eck ได้หายไปในเขตน่านน้ำหวงห้ามราวๆ 1.8 กิโลเมตรจากชายฝั่งคีลทางตอนเหนือของเยอรมนี ทั้งๆ ที่ตามปกติแล้วด้วยขนาดของมันไม่น่าจะมีสัตว์น้ำ คลื่น หรือพายุใดๆ ที่จะทำให้มันเคลื่อนที่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้เองทั้งทาง GEOMAR และตำรวจของเยอรมนีจึงตั้งข้อสงสัยว่าอุปกรณ์ดังกล่าวน่าจะถูกเคลื่อนย้ายหรือขโมยไปด้วยน้ำมือมนุษย์ และขอความร่วมมือไปยังภาคประชาชนให้ใครก็ตามที่มีเบาะแสของอุปกรณ์ที่หายไปช่วยให้ข้อมูลกับทางตำรวจโดยด่วน
ภาพถ่ายใต้น้ำของ Boknis Eck
ตัวอุปกรณ์สังเกตการณ์ Boknis Eck ถูกตีมูลค่าไว้ที่ราวๆ 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทาง GEOMAR ได้บอกว่าสิ่งที่สำคัญจริงๆ ของอุปกรณ์สังเกตการณ์ชิ้นนี้นั้นอยู่ที่ข้อมูลภายในซึ่ง “ตีค่าไม่ได้” ต่างหาก
ที่มา livescience, gizmodo และ thesun
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น