CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

เด็กกัมพูชาทำตามฝัน ลงแข่งจักรยานวิบากแม้อุปกรณ์ไม่เท่าคู่แข่ง ได้ใจชาวเน็ตถึงขีดสุด

พรสวรรค์นั้นอาจเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในแง่ของความเก่งกาจของบุคคลหนึ่ง แต่กว่าจะพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าเก่งทางด้านนั้นได้จริงๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ “ความพยายาม” ที่จะคว้าความสำเร็จมา

ตัวอย่างอันน่าชื่นชมนี้มาจากประเทศกัมพูชา กับเรื่องราวของเด็กชายพิญช์ เพียรชา วัย 13 ปี เขาเป็นเด็กจากครอบครัวยากจน แต่เขามีความฝันและความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ที่อยากจะเป็นนักแข่งจักรยานมืออาชีพ

ด้วยความรักและความหลงใหลในการปั่นจักรยาน เด็กชายพิญช์จึงใช้โอกาสนี้เข้าไปพูดคุยกับทางผู้จัดแข่งขันจักรยานวิบาก Cambodia MTB Series 2020 ที่จัดใกล้บ้าน ว่าอยากจะขอลงแข่งด้วย แม้จะไม่มีเงินค่าสมัครแข่งเลยก็ตาม

ทางผู้จัดเห็นได้เห็นความมุ่งมั่นของเขา จึงมีความยินดีอนุญาตให้เขาลงแข่งโดยไม่ต้องจ่ายค่าสมัคร แต่ก็เป็นห่วงสวัสดิภาพของเขาเนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ เลย

สุดท้ายก็ยอมให้เข้าแข่ง เพื่อความสุขของตัวเขาเองตามปรารถนา

เด็กชายพิญช์ได้ลงแข่งขันร่วมกับนักแข่งรายอื่นๆ ในสนามแห่งนี้ เขามาพร้อมกับหมายเลข 261 โดดเด่นกว่าผู้แข่งขันคนอื่นด้วยจักรยานแม่บ้านคันเก่าๆ ที่เขาปั่นประจำ

แม้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้ เขาอาจทำเวลาได้ไม่ดีนักแต่ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่ตนเองอยากทำได้แล้ว

สื่อกัมพูชาให้ความสนใจกับตัวของน้องพิญช์มากหลังจากที่ภาพถ่ายของเขาโผล่ไปทั่วโลกออนไลน์

ทางด้านคุณแม่ของน้องพิชญ์ระบุว่า ทางครอบครัวมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน พ่อแรงงานก่อสร้าง แม่เป็นแม่บ้าน ลูกชาย 3 คน

และน้องพิชญ์ก็เป็นคนที่ชอบจักรยานมากๆ เขามักจะปั่นเล่นอยู่ตลอดหลังเลิกเรียน จนกระทั่งได้ลองเข้าไปแข่งปั่นจักรยานเพื่อทำตามฝันอยากเป็นนักกีฬาปั่นจักรยาน

นอกจากนั้นแล้วก็มีผู้ใหญ่ใจดีประสงค์อยากจะช่วยเหลือมอบอุปกรณ์ให้กับน้องพิชญ์ จึงออกตามหาและพบกันในที่สุด พร้อมกับบริจาคจักรยานส่งต่อให้น้องได้นำไปใช้

เนื่องจากเห็นความมุ่งมั่นของน้อง เป็นเด็กที่มีทัศนคติที่ดี มีความถ่อมตน และหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จกับเส้นทางนักกีฬาปั่นจักรยานในอนาคต

พร้อมกันนี้ทางโรงเรียนที่เด็กๆ อยากเข้าเรียน ก็ได้ให้ความช่วยเหลือรับเข้าพี่น้องทั้ง 3 คนเข้าเรียนฟรีจนจบการศึกษา

เพราะหลังจากที่ทราบถึงปัญหาความยากจนของครอบครัว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน และให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของชาตินั่นเอง