CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ทำความรู้จัก “Carcinisation” ปรากฏการณ์ประหลาดที่ทำให้ทุกอย่าง “กลายเป็นปู”

สำหรับวงการโลกออนไลน์ของต่างประเทศ มันมีเรื่องราวเรื่องหนึ่งซึ่งมักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงหรือทำเป็นมีมอยู่บ่อยๆ โดยเรื่องราวที่กล่าวมานี้มีใจความสำคัญอยู่ว่า ไม่ช้าก็เร็วทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก จะกลายเป็น “ปู” ในสักวัน

เรื่องราวที่ออกมานี้ สำหรับหลายๆ คนแล้วคงเป็นเรื่องชวนงงกันไม่น้อย ว่าทำไมทุกอย่างต้องกลายเป็นปูด้วย… แต่เชื่อหรือไม่ว่าเจ้าปรากฏการณ์ “ทุกอย่างกลายเป็นปู” ที่กล่าวมานี้ มีอยู่จริงในธรรมชาติ และมันก็เกิดขึ้นบ่อยๆ ด้วย

 

ปูมะพร้าว เป็นปูเสฉวนขนาดใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน แต่มันไม่ใช่ “ปูจริงๆ” แต่อย่างไร

 

ก่อนที่จะอธิบายเรื่อง ปรากฏการณ์ทุกอย่างกลายเป็นปูให้เข้าใจง่ายๆ นั้น เราคงต้องอธิบายกันก่อนว่าสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกกันว่า “ปู” นั้น หลายๆ ชนิดจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นปูแต่อย่างไร

กลับกันสัตว์อย่าง ปูยักษ์อะแลสกา ปูมะพร้าว ปูเสฉวน ปูหินขน และ ปูกระเบื้อง จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงสัตว์เปลือก ที่เป็นเหยื่อของปรากฏการณ์  “ทุกอย่างกลายเป็นปู” หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Carcinisation” ทั้งสิ้น

 

สารพัดตัวอย่างของปูที่ไม่ใช่ “ปูจริงๆ”

 

ปรากฏการณ์อันน่าแปลกประหลาดของธรรมชาตินี้ แม้ไม่น่าเชื่อก็ตามแต่มันเกิดขึ้นจาก “ความบังเอิญ” ในขั้นตอนการวิวัฒนาการล้วนๆ

โดยสัตว์ในตระกูลครัสเตเชียน (Crustaceans) อย่าง กุ้ง กั้ง และปู นั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างมักจะวิวัฒนาการรูปร่างตัวเองไปคล้ายปูขึ้นเรื่อยๆ (เช่นกุ้งมังกรและกุ้งล็อบสเตอร์หลายๆ ชนิดที่มีตัวสั้นลง และมีก้ามโตขึ้นเรื่อยๆ)

 

Squat Lobster หนึ่งในกุ้ง ที่กำลังจะกลายเป็นปู

 

เหตุผลที่ทำให้สัตว์เหล่านี้มีรูปร่างเหมือนปูขึ้นทุกวันนั้น แม้ในปัจจุบันเราจะยังไม่สามารถไขได้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนก็มองว่า

Carcinisation อาจจะเกิดขึ้นเพราะปูเป็นจุดสูงสุดของการวิวัฒนาการแล้วก็ได้ นั่นเพราะสัตว์รูปร่างแบบปูจะไม่จำเป็นต้องมีหางในการว่ายน้ำ ทำให้พวกมันไม่ถูกนักล่าจับโดยง่าย

แถมยังสามารถเดินบนพื้นผิวที่แตกต่างกันได้สะดวกด้วยขายาวๆของมัน (ถึงขั้นที่ปีนขึ้นต้นไม้ได้แบบกรณีปูมะพร้าว) และมีเกาะหุ้มทั่วตัวด้วย

ดังนั้น มันจึงมีความเป็นไปได้ว่ายิ่งสัตว์ในตระกูลครัสเตเชียนมีรูปร่างคล้ายปูขึ้นแค่ไหน พวกมันก็จะมีโอกาสรอดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ในท้ายที่สุด สัตว์ในตระกูลนี้จึงกลายเป็นปูกันไปหมดนั่นเอง

 

ปูยักษ์อะแลสกา จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ปูเช่นกัน กลับกันมันเป็นปูเสฉวน หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ส่วนท้องของปูยักษ์ที่ยังคงความไม่สมมาตรเอาไว้

 

ที่มา iflscience

Comments

ใส่ความเห็น