เคยเห็นในภาพยนตร์กันมาบ้างรึเปล่า? เวลาที่คนรวยเจอกับปัญหาโลกล่มสลาย มักจะใช้เงินหยิบยื่นใช้กับทุกอย่างเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอดมากกว่าคนอื่น ทั้งๆ ที่ความช่วยเหลือกำลังกระจายให้คนอย่างเท่าเทียมกัน…
กรณีนี้อาจจะเห็นเป็นภาพได้ชัดมากขึ้นจากเศรษฐีผู้บริหารคาสิโนชาวแคนาดาและภรรยานักแสดง ผู้ถูกตั้งข้อหาและปรับหลังจากบินไปยังเขตพื้นที่ชนบทกลุ่มปฐมชาติอันห่างไกลในแคนาดา ที่จะได้รับวัคซีนโควิดโดยไม่ต้องรอคิวนานๆ อย่างในเมืองใหญ่
นาย Rodney และนาง Ekaterina Baker เริ่มบินจากเมืองแวนคูเวอร์ไปยังไวต์ฮอร์ส และเป็นสถานที่ที่พวกเขาควรจะแยกกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อไปถึง
แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจกฎการกักตัวใดๆ ตามมาด้วยการเช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวไปต่อที่บีเวอร์ครีก ชุมชนชนบทที่มีคนอาศัยอยู่แค่ประมาณ 90 คน ใกล้ๆ กับชายแดนอะแลสกา
สามีภรรยาคู่นี้อ้างว่าตนเองทำงานในโรงแรมท้องถิ่นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ที่มาฉีดวัคซีนให้ เพราะว่าคนแถวนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรยืนยันตัวใดๆ เมื่อต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดในเขตยูคอน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลแคนาดาประกาศแล้วว่าบัตรสุขภาพจากเขตอื่นสามารถนำมาใช้ได้ หากยืนยันได้ว่าเป็นคนในเขตยูคอนจริง ทั้งคู่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดฟรีเรียบร้อย
แต่ชาวบ้านแถวนั้นเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับสองคนนี้เพราะไม่เคยคุ้นหน้ามาก่อน จนกระทั่งโทรไปถามโรงแรมที่โดนกล่าวอ้างชื่อไป ยืนยันแล้วว่าทั้ง Rodney และ Ekaterina ไม่ได้ทำงานกับโรงแรมแห่งนั้นเลย
เอกสารการตั้งข้อหาจากหน่วยงานรัฐ
แถมยิ่งทำตัวน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกเพราะหลังจากฉีดวัคซีนเสร็จรีบเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่สนามบินทันที ด้านตำรวจก็เร่งไปดักที่สนามบินเมืองไวต์ฮอร์สทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะบินรอบสองกลับถึงแวนคูเวอร์
พอลงเครื่องที่สนามบินไวต์ฮอร์สก็โดนจับกุมตัวพร้อมตั้งข้อหา 2 กระทง ทั้งคู่ถูกสั่งปรับจากการฝ่าฝืนการกักตัวและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับการลงนามจากรัฐบาล เป็นเงินจำนวน 27,000 บาท รวม 2 คนเป็นเงิน 54,000 บาท
แน่นอนว่าผลจากการกระทำของสองสามีภรรยา Baker ทำให้คนในชุมชนชนบทไม่พอใจ ที่ต้องรับความเสี่ยงจากการฝ่าฝืนกฎการกักตัวของ 2 คนนี้ และจากความพยายามของชาวชุมชนในเขตยูคอนทำมาแทบตาย ต้องมาพังทลายเพียงเพราะคนไม่กี่คน
ส่วนนาย Rodey เองก็กลายเป็นอดีตผู้บริหารกลุ่มคาสิโนและสนามแข่งรถ GCGC หลังจากที่ถูกชาวแคนาดาทั้งประเทศก่นด่ากดดันให้ลาออกจากการกระทำที่เห็นแก่ตัว
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: nytimes, dailymail, cbc, yukon-news
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น