หากให้ยกรายชื่อของหญิงสาวมหัศจรรย์ในวงการบันเทิง เชื่อว่าชื่อของ Hailee Steinfeld ต้องโผล่ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอนค่ะ
ด้วยอายุเพียงแค่ 23 ปี แต่เธอกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถทั้งด้านการแสดงและการร้องเพลง
Hailee ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง True Grit (2010) และได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ดังหลายๆ เรื่องทั้ง Begin Again (2013), Pitch Perfect และ Bumblebee (2018)
ไม่เพียงแค่ความสามารถในด้านการแสดงเท่านั้นค่ะ ในตอนนี้เธอยังโดดเด่นในเรื่องการร้องเพลงอีกด้วย บทเพลงของเธอถูกดันขึ้นให้ไปอยู่บนท็อปชาร์ทมากมายทั้ง Most Girls, Love Myself และ Let Me Go
เธอเคยร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ Fifty Shades Freed ด้วย
ซึ่งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา #เหมียวนานะ ได้มีโอกาสพบปะกับสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ผ่านทาง Zoom ร่วมกับสื่อไทยเจ้าอื่นๆ ค่ะ
โดยการพบปะในครั้งนี้มีเวลาแค่เพียง 15 นาทีเท่านั้น แต่เป็น 15 นาทีที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับ Hailee มากขึ้นผ่านการเล่าเรื่องราวของคอลเลกชั่นเพลงใหม่ในรอบ 4 ปีของเธอนามว่า Half Written Story
ขอเกริ่นก่อนเลยว่า Hailee เคยเดบิวต์อัลบั้มแรก HAIZ ออกมาแล้วในปี 2016 และการกลับมาของเธอครั้งนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เราลองมาฟังเรื่องราวของ EP นี้กันดีกว่า…
Half Written Story เป็นชุด EP เล็กๆ ที่ Hailee แต่งขึ้นและร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังอย่าง Koz ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 บทเพลงด้วยกัน
ทั้ง 5 บทเพลงนี้ได้มีการถ่ายทอดอารมณ์อันหลากหลายของ Hailee ทั้งความผิดหวัง ความสับสน ความเหงา ความโดดเดี่ยว พลังและความมั่นใจ ซึ่ง Hailee กล่าวถึงความมั่นใจนี้ว่า
“การก้าวผ่านบางอย่างสำหรับฉันมันต้องมีการสูญเสียตัวเองไปบ้าง
แต่เรากลับได้รู้ว่าเราเป็นใครและได้รับความมั่นใจมากขึ้น
สุดท้ายเราก็กลับมาแข็งแกร่งกว่าที่เราเคยคิดเอาไว้ค่ะ”
ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมล่ะว่าทำไมถึงเป็น ‘Half Writte Story’!?
Hailee บอกว่าเมื่อความสัมพันธ์ของคนเราถ้ามันจบลงแบบไม่ทันตั้งตัว มันก็เหมือนการเขียนเรื่องราวที่ไม่มีตอนจบ จึงกลายเป็นเรื่องราวที่มีเพียงแค่ครึ่งเดียวยังไงล่ะ
และไอเดียของ EP นี้มันน่าสนใจและเหมาะกับคนที่อกหักเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ Hailee เล่าว่าทุกความสัมพันธ์ที่จบลงไปแล้วเราต้องใช้เวลาในการอยู่กับตัวเอง
และอย่าเพิ่งไปยึดติดอยู่กับมัน จนกว่าเราจะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เหมือนกับประโยคกล่าวไว้ในบทเพลง I Love You’s ว่า
“NO MORE I LOVE YOU UNTIL I’M OK”
เมื่อถูกถามว่าชอบแทร็กไหนมากที่สุดใน EP นี้!?
“ฉันรู้สึกแย่นิดหน่อยนะ คือมันเปลี่ยนไปตลอดเวลาเลยค่ะ
เพราะบางทีแฟนๆ บอกว่าชอบเพลงนี้เพราะแบบนี้มันเลยทำให้ฉันชอบเพลงนี้มากขึ้น ไม่รู้เหมือนกันฉันเลือกไม่ได้”
พูดถึงหน้าปก EP ที่ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด… ใครเป็นคนออกแบบ ได้ไอเดียมายังไง!?
“หน้าปกนี้มันสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบเหมือนกันค่ะ ฉันอยากให้มีภาพวาดประกอบอยู่แล้วประจวบกับช่วงกักตัวทำให้เราออกไปถ่ายรูปไม่ได้
ฉันเลยให้เพื่อนผู้มีความสามารถ 2 คนแนะนำศิลปินให้และเขาทำมันออกมาได้ดีมากค่ะ”
เพื่อนของ Hailee ยังบอกอีกว่าเพลงบางเพลงมันให้ความรู้เหมือนตัวเองเป็นของเล่น ที่ถูกเล่นจนพังและถูกประกอบขึ้นมาใหม่
ในตอนนั้นเธอไม่ได้คิดว่ามันสลักสำคัญอะไรเลย จนกระทั่งหน้าปก EP เสร็จเท่านั้นแหละมันทำให้เธอต้องพูดว่า
“โอ้มายก็อด ฉันชอบเจ้าตัวนี้มาก!”
แน่นอนว่าการเป็นทั้งนักแสดงและนักร้องมันมีความท้าทายที่แตกต่างกัน แต่ถ้าถามว่าเธอชอบบทบาทไหนมากกว่ากันล่ะ!?
“ทั้งสองมีความท้าทายแตกต่างกันค่ะ
การเป็นนักแสดงต้องทำตัวให้กลมกลืนไปกับโลก ในขณะที่บทเพลงคือโลกของฉัน โลกที่คนอื่นต้องปรับตัวเข้ามา…”
สุดท้ายแล้ว Hailee ถูกถามเรื่องเป้าหมายในแต่ละอาชีพของเธอ เธอได้กล่าวถึงความฝันของการเป็นนักร้องว่าอยากมี World Tour ของตัวเองสักครั้งหนึ่ง…
“ฉันอยากมี World Tour ของตัวเองสักครั้ง มันเป็นความฝันตั้งแต่ที่ได้ก้าวมาเป็นศิลปิน”
เมื่อเวลาใกล้หมด Hailee ได้ฝากความรักถึงแฟนๆ ชาวไทยด้วยแหละ เธอน่ารักและเป็นกันเองมากจน #เหมียวนานะ อดยิ้มไม่ได้เลยค่ะ เธอกล่าวปิดท้ายว่า
“ฉันรักพวกคุณมากๆๆๆ และอยากขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนตลอดมานะคะ
ฉันอยากไปเมืองไทย อยากไปกอดพวกคุณ เจอพวกคุณและแสดงโชว์ให้พวกคุณดู
แต่ในตอนนี้อยากให้ทุกคนปลอดภัยและร่าเริงเข้าไว้นะคะ แล้วเจอกันค่ะ”
ทุกคนสามารถฟัง Half Written Story ผ่านทาง YouTube และ Spotify ได้แล้วน้าา และหากใครต้องการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับศิลปินต่างๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ Universal Music Thailand ได้เลย
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น