CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ชายหนุ่มเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน หลังร้องเรียนที่พักผ่านรายการทีวี แต่หล่อออร่าพุ่งเกิน!!

กลายเป็นคนดังไปแบบงงๆ เลยค่ะ เมื่อชายหนุ่มนามว่า ‘จาง‘ ได้มีโอกาสไปออกรายการทีวีช่องหนึ่งเพื่อร้องเรียนปัญหาที่เขาประสบพบเจอ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนโฟกัสที่ความหล่อมากกว่าปัญหาไปซะงั้น

เมื่อไม่นานมานี้ หนุ่มจางวัย 22 ปี จากเมืองหนิงปัว ประเทศจีน ได้ออกมาร้องเรียนปัญหาผ่านรายการ Zhejiang Television เป็นรายการที่เกี่ยวกับการร้องเรียนสินค้าและที่อยู่อาศัยในภูมิภาคนั้น

 

 

ซึ่งจางได้ออกมาร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องประตูกระจกห้องน้ำในที่พักของเขา จางเล่าว่าในวันที่ 8 กันยายน 2020 เขากำลังอาบน้ำอยู่และจู่ๆ ประตูกระจกห้องน้ำของที่พักก็แตกและพังลงมาเฉยเลย

เหตุการณ์นั้นทำให้มือทั้ง 2 ข้างของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลไปประมาณ 9,400 หยวน (ประมาณ 43,000 บาท)

ด้วยเหตุนี้หนุ่มจางเลยออกมาร้องเรียนกับทางรายการ เพื่อจะได้รับเงินชดเชยจากสำนักจัดการที่อยู่อาศัยค่ะ

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รายการได้ออกอากาศไปกลับกลายเป็นว่าผู้คนไม่ได้โฟกัสมือที่พันแผลทั้งสองข้างหรือเรื่องกระจกเลย แต่ผู้คนกลับสนใจในใบหน้าอันหล่อเหล่าของหนุ่มจางต่างหากล่ะ

เรียกได้ว่าหนุ่มจางเนี่ยสุดปังจริงๆ เพราะหลังจากที่วิดีโอนี้เผยแพร่ออกได้ก็กลายเป็นวิดีโอที่ติดเทรนด์บนเว็บไซต์ Weibo และมีผู้เข้าชมมากถึง 50 ล้านวิว ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

 

 

นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ออกแนวเต๊าะๆ เยอะแยะเต็มไปหมด อย่าง “จาง คุณอยากได้แฟนสาวบ้างไหม?” หรือ “แค่ฉันได้เห็นหน้าคุณจาง ฉันก็ไม่สนใจเนื้อข่าวอีกต่อไปเลย”

 

.

 

ในตอนแรกหนุ่มจางออกมาร้องเรียนกับทางสำนักงานที่พักแล้วแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ แต่พอสุดท้ายเขากลายเป็นไวรัลดังบนอินเทอร์เน็ตขึ้นมา ทางสำนักงานเลยยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายบางส่วนอีกด้วย

ก็คือว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงของจางเลยค่ะ เพราะเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวว่า

 

 

“ผมคิดว่านี่มันมากเกินไปเหมือนกันนะ ผมแค่อยากปกป้องสิทธิของตัวเองเฉยๆ ไม่คิดว่าอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้น”

 

.

 

เรียกได้ว่าความหล่อเป็นเหตุทำให้ได้รับสิทธิของตัวเองคืนมาจริงๆ ค่ะ ในตอนนี้มีคนออกมาหาวาร์ปของหนุ่มจางกันเต็มไปหมดเลย โลกอินเทอร์เน็ตนี่น่าทึ่งจริงๆ

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: dailymail

Comments

ใส่ความเห็น