คู่รักอเมริกัน พบกระสุนปืนใหญ่สมัยสงครามกลางเมืองบนหาด หลังเฮอร์ริเคนพัดผ่านชายฝั่ง

ช่วงเวลาที่เฮอร์ริเคนโดเรียนพัดผ่านชายฝั่งของสหรัฐฯ เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นคนบางกลุ่มออกเดินตามริมหาดต่างๆ เพื่อมองหาวัตถุมีค่าที่อาจถูกพายุพัดมาเกยตื้น

ในบรรดาคนเหล่านั้น ยังมีคู่รักอย่างคุณ Aaron Lattin และแฟนสาวอยู่ด้วย ซึ่งพวกเขาได้เดินทางไปยังชายหาด Folly ของเมืองชาร์ลสตัน ในรัฐเซาท์แคโรไลนา โดยหวังว่าตัวเองจะได้พบวัตถุโบราณมีค่าสักชิ้น

แต่แทนที่จะพบวัตถุโบราณธรรมดาๆ อย่างที่หวังไว้ สิ่งที่พวกเขาพบ กลับเป็นลูกกระสุนปืนใหญ่เก่าๆ ซึ่งถูกฝังเอาไว้ในทรายแทน

ในตอนแรกที่พบกระสุนปืนใหญ่ คุณ Lattin และแฟนสาวคิดว่ามันเป็นแค่หินแปลกๆ ก้อนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปมองใกล้ๆ พวกเขาก็พบว่ามันอาจจะเป็นระเบิดโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทำการติดต่อไปยังกรมความปลอดภัยสาธารณะในพื้นที่ทันที

หลังจากที่พวกเขาติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ไม่นาน ทั้งนักดับเพลิง ตำรวจ และหน่วยกู้ระเบิดก็เข้ามาทำการปิดล้อมพื้นที่ทันที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บกู้กระสุนปืนใหญ่ลูกดังกล่าวไป

อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ กระสุนปืนเจ้าปัญหาในครั้งนี้ คาดกันว่าเป็นวัตถุโบราณที่หลงเหลือมาจากยุคสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา และกินเวลาในการเก็บกู้ถึงราวๆ 6 ชั่วโมง

แต่แม้ว่านี่จะเป็นการค้นพบที่ฟังดูแปลก กระสุนปืนลูกนี้ ก็ไม่ใช่กระสุนปืนจากสมัยสงครามกลางเมืองเพียงลูกเดียวที่เคยถูกพบในหาดแห่งนี้ นั่นเพราะในปี 2016 เองคนในพื้นที่ก็เคยพบกระสุนปืนใหญ่ในรูปแบบคล้ายๆ กันมาแล้ว แถมยังมากถึง 16 ลูก

ที่กระสุนปืนใหญ่ถูกพบที่หาด Folly อยู่บ่อยๆ นั้นเป็นไปได้ว่าจะมีเหตุผลมาจากการที่ที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับสงครามกลางเมืองก็เป็นได้ เพราะในปี 1863 ที่หาดแห่งนี้เคยถูกปกครองโดยฝ่ายสหภาพ (ฝ่ายเหนือ) มาก่อน และในเวลานั้นเกาะใกล้เคียงก็ถูกใช้งานเป็นจุดตั้งปืนใหญ่มาก่อนเสียด้วย

“(กระสุนที่พบ) มันนับเป็นสมบัติทางประวัติศาสตร์เลย” แฟนสาวของคุณ Lattin  ให้สัมภาษณ์ “มันเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองชาร์ลสตัน ดังนั้นแน่นอนว่าเมื่อเราพบมัน พวกเราก็อยากจะบอกให้โลกรับรู้ถึงการค้นพบครั้งนี้”

ที่มา allthatsinteresting, cnn