‘แมลงสาบ’ คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนอาจรู้สึกกลัว ขยะแขยง หรือไม่ชอบมันเอามากๆ และที่สำคัญคือความอึดความทน ความตายยากของมัน บางทีต่อให้เราจะเหยียบมันเข้าไปจังๆ มันก็ยังไม่ตาย
และความอึดถึกของมันจึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจ ให้แก่นักวิจัยกลุ่มหนึ่งในการประดิษฐ์ ‘หุ่นยนต์แมลงสาบ’ ตัวนี้ขึ้นมา
หน้าตาของหุ่นยนต์แมลงสาบ
หลายๆ คนอาจสงสัยว่าเจ้าหุ่นยนต์หน้าตาประหลาดที่เหมือนแผ่นโลหะนี้ ทำไมมันถึงถูกเรียกว่า ‘หุ่นยนต์แมลงสาบ’ ??
นั่นก็เพราะว่าความอึดถึกทนของเจ้าหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวนั้น แทบไม่ต่างจากความสามารถของแมลงสาบที่เราพบเห็นกันโดยทั่วๆ ไปเลย
คือลองคิดภาพว่าเวลาที่เราอาจเผลอ (หรือตั้งใจ) เหยียบไปโดนเจ้าแมลงสาบเข้า แต่พอเรายกเท้าขึ้นมาก็กลับพบว่ามันสามารถเดินต่อไปได้เฉยเลย ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับหุ่นยนต์ตัวนี้
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองเบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา ร่วมกับศาสตราจารย์ชาวจีนที่ชื่อว่า Yichuan Wu พวกเขาได้ทำการประดิษฐ์และพัฒนาหุ่นยนต์ขนาดจิ๋วที่มีความสามารถดังกล่าว
ศาสตราจารย์ Liwei Lin หนึ่งในผู้นำทีมวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า พวกเขาได้ใช้วัสดุพิเศษ Piezoelectric สามารถ ‘ขยายและหดตัว’ มีความยืดหยุ่นเมื่อได้รับแรงดันไฟฟ้า
อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก
ทนทานขนาดไหนนั้น ก็ลองคิดดูว่าเจ้าหุ่นยนต์ขนาดจิ๋วนี้มีความยาวแค่ประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร หนักราวๆ 65 มิลลิกรัม หรือก็คือไม่เกิน 0.07 กรัม แต่มันกลับสามารถรับแรงเหยียบหนัก 60 กิโลกรัมได้!!
นั่นหมายความว่าเจ้าหุ่นยนต์ขนาดจิ๋วตัวนี้ สามารถรับแรงที่มากกว่าน้ำหนักตัวได้ราว 1,000,000 เท่าเลยทีเดียว
เหยียบเต็มเท้า ยังดิ้นได้อยู่
Liwei กล่าวถึงความสามารถของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้เอาไว้ในการตีพิมพ์ลงวารสาร Science Robotics ว่า…
“เราลองให้คนเหยียบลงไปบนตัวหุ่นยนต์แมลงสาบ ด้วยน้ำหนักที่มากกว่าตัวของมันหลายเท่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือหุ่นยนต์ยังคงสามารถทำงานได้ ซึ่งนั่นไม่ต่างจากแมลงสาบที่เราเจอกันเป็นประจำเลย”
นอกจากนั้นแล้ว เธอยังบอกอีกว่าเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 0.6 เมตรต่อวินาที หรือราวๆ 2.16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเธอเชื่อว่านี่คือความเร็วที่สูงที่สุดสำหรับหุ่นยนต์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
คลิปสาธิตความสามารถของเจ้าหุ่นยนต์แมลงสาบ
หลังจากที่งานวิจัยเจ้าหุ่นยนต์แมลงสาบได้ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปนั้น ทางทีมวิจัยก็เชื่อว่ามันจะสามารถนำไปต่อยอดในการประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับการค้นหาผู้ประสบภัย ผ่านช่องแคบเล็กๆ ที่คนไม่สามารถเข้าถึงได้
นับว่าเป็นการนำเอาหนึ่งในความสามารถของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนกลัว
มาสร้างให้เกิดประโยชน์แก่มนุษยชาติในอนาคตได้เป็นอย่างดีเลยจริงๆ
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Mirror , UC Berkeley
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น