CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

เด็กชายวัย 6 ขวบ ยัดเหรียญติดคารูจมูก แต่ไม่กล้าบอกแม่ ปล่อยไว้จนลืมไปนานกว่า 53 ปี!!

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเคสน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเมืองเซเลโนกราด ประเทศรัสเซีย เมื่อชายคนหนึ่งประสบปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นผลมาจากการที่เขาเคยเล่นซนในตอนเด็ก…

 

Excuse Me What GIF by One Chicago

 

ชายวัย 59 ปีคนหนึ่ง (ไม่ระบุชื่อ) รู้สึกหายใจติดขัด ไม่สามารถหายใจเอาอากาศเข้าไปในรูจมูกทางด้านขวาของเขาได้ พอเป็นอย่างนั้นอยู่นานหลายเดือน เขาเลยตัดสินใจเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล

ทางโรงพยาบาล Konchalovsky City Clinical Hospital ได้ทำการตรวจซีทีสแกน เพื่อหาว่าต้นตอของปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ จนพวกเขาได้พบกับสิ่งแปลกปลอมบางอย่าง

 

 

แพทย์ตรวจพบสิ่งแปลกปลอม ลักษณะเป็นของแข็งลึกเข้าไปในรูจมูกทางด้านขวาของคนไข้รายนี้ ซึ่งมันก็คือสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้อากาศสามารถเข้าไปได้สะดวก

ในตอนแรกสุด คนไข้เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปตอนไหน จนเมื่อเขาได้เห็นภาพจากการทำซีทีสแกน เผยให้เห็นวัตถุแปลกปลอมทรงกลม เขาถึงกับร้องอ๋อขึ้นมาในทันที

คนไข้เล่าว่า เมื่อตอนอายุ 6 ขวบ เขาเคยเล่นซน ยัดเอาเหรียญ 1 โคเปก (เหรียญเงินที่มีขนาดเล็กที่สุดในรัสเซีย) เข้าไปในรูจมูกด้านขวา แล้วมันก็ติดอยู่ข้างในนั้น

และด้วยความที่กลัวว่าแม่จะดุ เขาจึงเลือกที่จะเก็บเงียบเอาไว้ พอวันเวลาผ่านไปเขาก็เลยลืมว่ามีเหรียญติดอยู่ในรูจมูกของตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็จนตอนที่มันเริ่มมีพวกน้ำมูกหรือเศษเนื้อเยื่อไปเกาะจนขัดขวางต่อการหายใจ

 

 

แน่นอนว่าเรื่องของเขาฟังดูค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อทีมแพทย์ทำการผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมออกมาก็พบว่ามันคือเหรียญจริงๆ และยังอยู่ในสภาพที่คาดว่าน่าจะคาอยู่ในรูจมูกของเขามาอย่างยาวนาน

จากรายงานในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2020 ทางทีมแพทย์กล่าวว่า ชายคนนี้ถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากที่สามารถฟื้นคืนการหายใจให้กลับมาเป็นปกติได้

เพราะโดยปกติแล้ว การที่มีสิ่งแปลกปลอมคาอยู่ในรูจมูกเป็นเวลานานกว่า 53 ปีแบบนี้ อาจนำไปสู่การอักเสบหรือการติดเชื้อรุนแรง และนั่นก็อาจส่งผลที่ร้ายแรงกว่านี้มาก

 

 

พออ่านจบ #เหมียวตะปู รีบสำรวจร่างกายตัวเองก่อนเลย

ชักกังวลว่าตอนเด็กๆ เคยยัดอะไรเข้าไปในตัวบ้างหรือเปล่า

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: MoscowPressAgency , OddityCentral


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น