CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ชาวเน็ตอมยิ้ม หลังนักธรณีแชร์วิดีโอหินสวยงาม ที่จะดูยังไงก็ “Cookie Monster” ชัดๆ

ไม่ว่าจะเป็นกับเด็กหรือผู้ใหญ่มันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์เรา มักจะหลงรักในหินสวยงามอยู่เสมอ ดังนั้นมันจึงคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นหินสวนงามกลายเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ หรอก ที่เราจะมีโอกาสได้เห็นหินแร่ที่มีรูปร่างเหมือนตัว “Cookie Monster” จากรายการ Sesame Street ไม่มีผิด

และเรื่องราวของมันก็กำลังเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์เลยด้วย

 

 

เรื่องราวของหินสวยงามก้อนนี้ถูกนำออกมาเปิดเผยให้โลกรู้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา โดยนักธรณีวิทยาจากแคลิฟอร์เนียชื่อ “Mike Bowers”

มันเป็นหินบลูอาเกต (Blue Agate) ควอตซ์ชนิดหนึ่งซึ่งที่อยู่ในหินภูเขาไฟรูปไข่

 

วิดีโอต้นฉบับจากคุณ Mike Bowers ซึ่งในปัจจุบันถูกเข้าชมไปกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว

 

ซึ่งหินชนิดนี้ โดยมากแล้วจะเกิดจากการที่หินภูเขาไฟแข็งตัวโดยมีน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดรูภายใน ก่อนที่น้ำในรูดังกล่าวจะค่อยๆ สลายไปเหลือเพียงแร่ที่จับตัวกันอยู่ในหิน

และด้วยความบังเอิญบางอย่าง ในกรณีของหินที่พบ มันก็ดันมีรูปร่างเมื่อผ่าครึ่ง เหมือนตัวละครสีน้ำเงินหน้ายิ้มจากรายการเด็กชื่อดังไม่มีผิดเลยด้วย

 

 

“นี่อาจเป็น Cookie Monster ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ผมเคยพบมาเลย” คุณ Mike ระบุ

เขาเล่าว่าเดิมทีแล้ว เขาได้ซื้อหินก้อนดังกล่าวมาจากนักอัญมณีศาสตร์ชาวบราซิลที่รู้จักกัน โดยมันปะปนอยู่ในกองอาเกตจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

 

 

“จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่แปลกอยู่ที่เราจะพบรูปหน้าในอาเกต แต่ในหลายๆ กรณีมันจะออกมาเหมือนการที่คุณเห็นหน้าคนบนก้อนเมฆเท่านั้น” คุณ Mike เสริม

“สิ่งที่ทำให้หินก้อนนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือมันเห็นได้ชัดเจนมากๆ ว่ามันเป็นรูป Cookie Monster แบบไม่ต้องมีคำอธิบาย”

 

 

แน่นอนว่าด้วยความแปลกของวิดีโอที่ออกมา คุณ Mike Bowers ก็ย่อมได้รับการติดต่อขอซื้อต่อหินก้อนดังกล่าวไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง แถมบางรายก็ให้ราคาหินก้อนนี้ถึง 3 แสนบาทเลยด้วย

แต่แม้ว่าเงินที่ถูกเสนอมาจะสูงสุดๆ ก็ตาม คุณ Mike Bowers ก็ระบุว่าเขายังไม่มั่นใจนักว่าตัวเองอยากจะขายหินดังกล่าวออกไป

 

ที่มา allthatsinteresting, คุณ Mike Bowers, livescience และ cnet


by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น