เรื่องของเซ็กส์กับชีวิตคู่เป็นอะไรที่สำคัญสำหรับคู่รักหลายๆ คู่มากค่ะ เพราะแบบนี้จึงมีหลายครั้งหลายคราที่เหล่าคู่รักพยายามเพิ่มความร้อนแรงให้รสชาติเซ็กส์มากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่บางครั้งความร้อนแรงเหล่านั้นมันกลับจบลงแบบไม่สวยงามนี่สิ…
เมื่อไม่นานมานี้ทางรายการ Sex Sent Me to the ER ได้เชิญคู่รักนามว่า Nick กับ Stefani มาออกรายการค่ะ
รายการ Sex Sent Me to the ER เป็นรายการที่คู่รักจากทางบ้านจะออกมาเล่าเรื่องเซ็กส์ของพวกเขาว่ามันผิดท่า ผิดทาง ผิดจังหวะ จนสุดท้ายต้องลงเอยที่ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล
ซึ่งเรื่องราวของ Nick กับ Stefani ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน
เหตุการณ์มันมีอยู่ว่า Nick กับ Stefani ตัดสินใจเพิ่มความร้อนแรงให้ชีวิตคู่ด้วยการมัดข้อมือและข้อเท้าของอีกฝ่ายด้วยเทปกาวแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
โดยครั้งนี้ Stefani ผู้เป็นฝ่ายหญิงเป็นคนมัด Nick แฟนหนุ่มของเธอเอาไว้ค่ะ
ทั้งคู่เริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะกันอย่างเมามันส์ ร้อนแรงและสนุกสนาน แต่จู่ๆ Stefani ก็เกิดปวดท้องขึ้นมาจนเธอต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่าง เธอกล่าวในรายการว่า
“ฉันต้องหยุดทำทุกอย่าง มันมีบางอย่างแปลกไป ฉันเลยรีบลงจากเตียงและไปเข้าห้องน้ำ มันบ้าเอามากๆ”
จากนั้น Stefani ก็เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนออกมาอย่างหนักค่ะ เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมาก ปล่อยทิ้งให้ Nick เคว้งคว้างอยู่บนเตียงโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย
ไม่นานมือและเท้าของ Nick ก็เริ่มเจ็บและชา เขาพยายามเรียก Stefani แต่เขาได้รับการตอนกลับมาเพียงเสียงอาเจียนของแฟนสาวเท่านั้น
หลังจากนั้น Stefani ก็เดินออกมาจากห้องน้ำและพยายามใช้กรรไกรตัดเทปออกให้ Nick แต่เธอก็ตัดออกได้เพียงแค่ข้างเดียวและวิ่งกลับเข้าไปอาเจียนต่อแบบไม่หยุดยั้ง
และมืออีกข้างของ Nick ก็เริ่มบวมและเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ Stefani ก็ไม่มีท่าทีจะหยุดอาเจียน สุดท้ายพวกเขาเลยตัดสินใจโทรเรียกรถพยาบาลให้มาช่วยเหลือ
โชคดีมากค่ะที่มือของ Nick ไม่เป็นอะไรมาก แต่ Stefani ได้รับการวินิจฉัยว่าถุงน้ำดีของเธอติดเชื้อและมีนิ่วไปอุดตันที่ตับอ่อน จึงทำให้ตับอ่อนของเธออักเสบอย่างหนัก
และหมอก็คาดการณ์ว่าเนื่องจากแรงกระแทกจากการมีเซ็กส์นี่แหละที่ทำให้นิ่วหลุดไปติดอยู่ที่ตับอ่อน
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องพีคของจริงเลยค่ะ ดีนะที่ Stefani ปลอดภัย ส่วนมือของ Nick ก็ยังใช้การได้ตามปกติ เห็นแบบนี้แล้วทั้งคู่คงเข็ดกับเซ็กส์แบบมัดมือ มัดเท้าไปอีกนานเลยล่ะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: ladbible
Advertisement
0 Comments