ยังเป็นที่น่าสงสัยว่า “เราสามารถติดเชื้อ COVID-19 จากสัตว์ได้หรือไม่?” ซึ่งยังคงเป็นข้อคำถามที่ยังต้องการข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด
ถึงอย่างนั้น ความเป็นไปได้จากคำถามดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้ทางรัฐบาลสเปนตัดสินใจกำจัด ‘ตัวมิงค์’ เกือบ 100,000 ตัวในฟาร์มแห่งหนึ่ง หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อทั้งในตัวมิงค์และเหล่าคนงานที่อยู่ในฟาร์มแห่งนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ณ ฟาร์มเพาะพันธุ์ตัวมิงค์ในแคว้นอารากอน ประเทศสเปน มีการตรวจพบเชื้อ COVID-19 ในตัวภรรยาของลูกจ้างคนหนึ่งในฟาร์ม
ต่อมาจึงได้พบอีกว่าลูกจ้างที่เป็นสามีเองก็ติดเชื้อด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงลูกจ้างคนอื่นๆ อีก 6 คน รวมแล้วพบผู้ติดเชื้อในฟาร์มแห่งนี้ทั้งสิ้น 8 ราย
ด้วยเหตุนั้นจึงมีการสั่งปิดฟาร์มดังกล่าวชั่วคราว และทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีการแยกตัวมิงค์ทั้งหมดออกไปเพื่อทำการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม
จนได้พบว่าตัวมิงค์เกือบทั้งฟาร์มเองก็ติดเชื้อด้วยเหมือนกัน?!
ผลการตรวจในวันที่ 13 กรกฎาคม ระบุว่าตัวมิงค์กว่า 87% ของทั้งหมด 92,700 ตัวนั้น มีการติดเชื้อ COVID-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงมีคำสั่งออกมา “ให้กำจัดตัวมิงค์ทั้งฟาร์ม”
Joaquin Olona รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของแคว้นอารากอน กล่าวว่า…
“การกำจัดตัวมิงค์ทุกตัวในฟาร์มนั้นก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่พวกมันจะแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นความเป็นไปได้หนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้”
โดยทางภาครัฐก็จะมีเงินชดเชยให้กับทางเจ้าของฟาร์ม
ที่สำคัญคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ เพราะเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็มีการออกคำสั่งให้กำจัดตัวมิงค์กว่า 10,000 ชีวิตมาแล้ว
เหตุผลของคำสั่งนั้นก็เป็นในกรณีที่คล้ายกับเหตุการณ์นี้มาก เพราะมีการตรวจพบคนงานในฟาร์มตัวมิงค์ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งสิ้น 2 ราย โดยพวกเขาเชื่อว่าน่าจะได้รับเชื้อมาจากตัวมิงค์ในฟาร์มที่ก็ติดเชื้อเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม กรณีการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดในเรื่องนี้ โดยทาง องค์กรอนามัยโลก (WHO) เคยออกมาพูดแล้วว่ามันมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นกรณีที่คนแพร่สู่สัตว์ก็ได้
ทั้งนี้พวกเขาก็จะยิ่งศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดที่เกิดขึ้นเพื่อหาข้อพิสูจน์กันต่อไป โดยเฉพาะกับในกรณีของตัวมิงค์
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: BBC , TheGuardian , TheLocal
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น