ด้วยความพัฒนาของเทคโนโลยีในปัจจุบัน การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyber-attack) จึงกลายเป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายไปด้วย ไม่ว่าจะการกลั่นแกล้งหรือขโมยข้อมูลมีค่า
แต่แม้ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จะสร้างความเสียหายได้มากก็ตาม ตามปกติแล้วกิจกรรมแบบนี้ก็ไม่น่าจะทำให้มีใครต้องเสียชีวิตไปได้เลย
แต่เหตุการณ์การทางไซเบอร์ ทำให้คนตาย มันก็อาจจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้วในประเทศเยอรมนี เมื่อในวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดุสเซลดอร์ฟ ได้ถูกการโจมตีทางไซเบอร์ปิดระบบคอมพิวเตอร์สำคัญ
ส่งผลให้ผู้ป่วยที่จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษคนหนึ่ง จำเป็นที่จะต้องถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ไกลออกไป 30 กิโลเมตร และเสียชีวิตลงที่นั่นเนื่องจากการรักษาที่ไม่ทันท่วงทีในที่สุด
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเยอรมันได้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อเรื่องเกิดขึ้นในทันที โดยในเบื้องต้นใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้จะต้องโทษการฆาตกรรมโดยประมาทเป็นอย่างน้อย
“หากได้รับการยืนยัน โศกนาฏกรรมนี้จะเป็นกรณีแรกของการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการโจมตีทางไซเบอร์” Ciaran Martin อดีตหัวหน้าผู้บริหารของ National Cyber Security Centre สหราชอาณาจักรกล่าว
“จริงอยู่ว่าจุดประสงค์ของ Ransomware คือการสร้างรายได้แบบผิดกฎหมาย แต่มันก็ทำให้ระบบหยุดทำงาน ดังนั้นหากคุณโจมตีโรงพยาบาล เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่แปลกที่จะเกิดขึ้น”
และทั้งนี้เอง แม้ว่าจากข้อมูลที่เราทราบในเบื้องต้นตัว Ransomware เจ้าปัญหานี้จะไม่ได้เจาะจงการทำงานของโรงพยาบาล
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราก็มีโรงพยาบาลหลายแห่งเลยเช่นกันที่เคยมีประวัติตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ในรูปแบบนี้ ดังนั้นปัญหานี้ จึงถือเป็นเรื่องที่อันตรายต่อชีวิตคนได้มากกว่าที่เราคิด
ซึ่งนั่นก็ทำให้ทางตำรวจหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะจับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้มาลงโทษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ความจริงที่ว่าไม่มีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับ Ransomware ในปี 2019 ถือเป็นเพียงความโชคดีเท่านั้น” คุณ Fabian Wosar ประธานฝ่าย IT ของ Emisoft กล่าว ไว้ในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เมื่อปี 2019
“และความโชคดีที่ว่าก็อาจจะไม่อยู่กับเราไปจนถึงปี 2020 ด้วย”
ที่มา iflscience, bbc
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น