เพื่อนๆ เคยได้ยินเรื่องราวของอาการหายากชื่อ “โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ในตา” (Corneal dermoids) กันไหม? เพราะในตอนนี้เจ้าอาการดังกล่าวกำลังกลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ต่างประเทศเลย
นั่นเพราะเมื่อช่วงเดือนที่กุมภาพันธ์ผ่านมาสมาคมกวางแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้มีการออกมาเผยแพร่เรื่องราวของกวางตัวหนึ่ง ซึ่งเกิดมามีอาการสุดแปลกอย่างการมี “ขนงอกออกมาจากตา” เสียอย่างนั้น
เจ้ากวางประหลาดตัวนี้ถูกค้นพบเป็นหลังแรกตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2020 เมื่อผู้อยู่อาศัยในย่านชานเมือง Knoxville พบเห็นกวางตัวนี้เข้ามาวนเวียนในพื้นที่
พวกเขาแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ทันทีเพราะกวางที่พบมีท่าทางสับสนดูไม่กลัวมนุษย์และมีเลือดออก ซึ่งเป็นอาการของกวางที่ติดโรค “กวางซอมบี้” (Chronic wasting disease) ที่อาจแพร่ระบาดรุนแรงได้หากปล่อยไว้
ความเสี่ยงนี้เองที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะยิงกวางที่พบ ก่อนจะส่งส่วนหัวของมันไปตรวจสอบโรคที่มหาวิทยาลัยจอร์เจีย
และก็เป็นที่นั่นเองที่เหล่านักวิทยาศาสตร์พบกับความจริงว่าที่กวางตัวดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะไม่ได้เป็นโรคกวางซอมบี้อย่างที่คิดเท่านั้น แต่มันยังมีขนงอกขึ้นที่ตาทั้งสองข้างอย่างน่าประหลาดด้วย
อ้างอิงจากรายงานของหน่วยศึกษาโรคสัตว์ป่า กวางตัวนี้มีอาการผิดปกติ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยโรคอิพิซูติกซึ่งทำให้มันมีอาการเลือดออกเป็นไข้และสับสนคล้ายโรคกวางซอมบี้
และโรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ในตา ซึ่งทำให้มันมีเนื้องอกออกมาบังดวงตา และในกรณีของกวางตัวนี้ก้อนเนื้อดังกล่าวก็บังเอิญมีรูขุมขนหรือแม้แต่ต่อมเหงื่อด้วย
อาการในรูปแบบนี้ตามปกติจะเป็นอะไรที่ติดมากับตัวผู้ป่วยตั้งแต่เกิด ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่ากวางดังกล่าวคงจะเอาตัวรอดมาได้เป็นเวลานานมากแม้การมองเห็นของมันจะโดนจำกัดก็ตาม
Freak Buck Had Corneal Dermoids. Yes. Hairy Eyeballs. | NDA https://t.co/0xBk9qR3NY pic.twitter.com/kOsWCQrLah
— National Deer Association (@deerassociation) February 18, 2021
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่กวางดังกล่าวต้องมาตายไปเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่สุดวิสัยก็ตาม
เพราะจนถึงปัจจุบันเราเคยพบตัวอย่างของกวางที่มีอาการถุงน้ำเดอร์มอยด์ในตาเช่นนี้มาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกเป็นกวางที่ถูกล่าโดยนายพรานในหลุยเซียน่าเมื่อปี 2007 นั่นเอง
ที่มา iflscience
Advertisement
0 Comments