CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ทีมสำรวจพบ “Deepstaria” ใต้น้ำลึก 790 เมตร แมงกะพรุนพันธุ์หายากแปลงร่างได้

เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าโลกใบนี้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และลึกลงไปใต้ทะเล อันกว้างใหญ่ของโลกเอง เราก็ยังมีสัตว์อยู่อีกหลายชนิดที่มนุษย์แทบจะไม่มีข้อมูลของพวกมันอยู่เลย

ช่วงต้นเดือนกันยายน ระหว่างที่ยานสำรวจใต้น้ำจากเรือ EV Nautilus กำลังทำการสำรวจพื้นที่ทะเลแปซิฟิก ทีมสำรวจก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดในระดับความลึกที่ราวๆ 790 เมตร อธิบายไม่ถูกว่ามันเป็นเอเลี่ยน ผี หรือว่าผีของเอเลี่ยนอีกที

 

 

แน่นอนว่านี่ย่อมไม่ใช่ผีหรือเอเลี่ยนอย่างที่นักสำรวจเปรียบเทียบแต่อย่างไร แต่มันคือ “Deepstaria” แมงกะพรุนที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุด และมีข้อมูลอยู่น้อยที่สุดในสายพันธุ์หนึ่งของโลก

แม้จะเคยถูกค้นพบและตั้งชื่อกันมาตั้งแต่ยุค 1960 มนุษย์กลับมีโอกาสได้พบเห็นพวกมันน้อยจนนับครั้งได้ รวมถึงการออกสำรวจทะเลที่ยังคงมีความท้าทายจนถึงปัจจุบัน

 

 

สิ่งที่นักสำรวจทราบเกี่ยวกับ Deepstaria ในเวลานี้ คือมันมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างของตัวเองได้ ขยายขนาดตัวได้มากถึง 10 เท่า อาจใช้เพื่อเขมือบเหยื่อผู้โชคร้ายที่ว่ายน้ำผ่านมา

อ้างอิงจากข้อมูลของทีมสำรวจในตอนแรกที่พวกเขาพบ Deepstaria มันมีรอยเปื้อนสีแดงติดอยู่ภายในร่างกายด้วย ซึ่งเมื่อพวกเขาลองซูมเข้าไปดูรอยเปื้อนดังกล่าวอยางใกล้ชิด พบว่าเป็นไอโซพอดชนิดหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่

 

 

คาดกันว่ามันจะกำลังพยายามที่กินสัตว์น้ำเปลือกแข็งสีแดงตัวดังกล่าวอยู่ หรือไม่ก็ตัวไอโซพอดตัวนี้จงใจว่ายน้ำเข้าไปหาแมงกะพรุนด้วยตัวเอง เพื่อหนีจากนักล่าที่น่ากลัวยิงกว่าแมงกะพรุนในลักษณะของความสัมพันธ์ทางชีวภาพ

น่าเสียดายที่ข้อมูลอันน้อยนิดที่เรามีเกี่ยวกับ Deepstaria นั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์บนเรือ EV Nautilus ไม่สามารถฟันธงได้ว่า ตัวไอโซพอดกับแมงกะพรุนมีการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันจริงๆ หรือตัวไอโซพอดแค่อาศัยในแมงกะพรุนในลักษณะปรสิต หรือแมงกะพรุนกำลังกินไอโซพอดอยู่กันแน่

 

 

จากการได้พบ Deepstaria ครั้งนี้ ก็ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้ข้อมูลใหม่ๆ ของแมงกะพรุนตัวนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันเองทีมนักสำรวจก็ยังคงมีกำหนดการที่จะสำรวจทะเลต่อไป จนกระทั้งการสำรวจจะจบลงอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนตุลาคม 2019

 

ที่มา livescience และ allthatsinteresting


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น