กำลังเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนกำลังสงสัยเกี่ยวกับกรณีของการเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปรักษาพยาบาลให้กับลูกชายของคุณพ่อรายหนึ่ง หลังจากที่มีการลงโพสต์ไปว่าลูกชายจะต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเกิดอุบัติเหตุ จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญพร้อมกับแปะเลขที่บัญชีสำหรับโอนเอาไว้
เมื่อมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือการโอนเข้าบัญชีจากผู้ใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือชีวิตเด็ก เพราะจะต้องใช้เงินในการรักษาเป็นจำนวนมาก และมีการระบุปิดยอดรับบริจาคอยู่ที่ 1,902,011 บาท
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชาวเน็ตบางส่วนกลับตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดทำไมจึงต้องเปิดรับบริจาค เนื่องจากหากมองจากโปรไฟล์ของผู้เป็นพ่อนั้นดูไม่น่าขัดสนอะไรจนต้องขอเปิดรับบริจาคเงินเพื่อใช้รักษาลูกชายเลย
สิ่งที่ขุดเจอมีอะไรบ้าง บ้านพร้อมรถยนต์ 2 คัน
มีธุรกิจทำสวนทุเรียน
ซื้อรถจักรยานยนต์ประเภทบิ๊กไบค์
ขายล้อและยางรถยนต์
คอมเมนต์ที่เกิดขึ้นจึงเริ่มเป็นเสียงแตกระหว่างคนที่สงสัยกับคนที่ไม่สงสัย
เมื่อมีคนไปสอบถามเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลว่ามีเคสนี้อยู่จริงหรือไม่? ปรากฎว่าไม่มีและไม่ใช่
เมื่อมีคำถามจากชาวเน็ตมากมาย คุณพ่อจึงออกมาไลฟ์สดเพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เพจ Red Skull In Love ได้สรุปคร่าวๆ จากไลฟ์สดดังกล่าวเอาไว้เป็น 8 ข้อหลักๆ ดังนี้
- คุณพ่อออกมาชี้แจง พูดวกไปวนมา โดยมีคุณแม่นั่งบอกบทอยู่ข้างๆ
2. คุณพ่อโชว์ภาพแคปหน้าจอของแอปธนาคารออมสินซึ่งมียอดเงินกว่า 1.9 ล้านบาท พร้อมทั้งบอกว่าคุณแม่ไม่สะดวกออกมาชี้แจง
3. เมื่อถูกถามว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณพ่อตอบว่าเป็นอุบัติเหตุส่วนคุณแม่เหวี่ยงใส่ แย้งว่าตนไม่ได้สะเพร่า ลูกตน ตนก็รัก บลาๆๆ
4. การไลฟ์สดของคุณพ่อยังคงดำเนินต่อไปโดยมีคุณแม่คอยกระซิบบอกอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาและยังบอกว่าหากเงินเหลือจะเก็บเอาไว้รักษาน้องจนกว่าจะหาย (สงสัยไม่คิดจะหาเงินรักษาลูกด้วยตัวเองเลยมั้ง)
5. เรื่องทรัพย์สินที่มีคุณพ่อบอกว่าคนละส่วนกัน ขายไปบางชิ้นแต่ไม่สามารถหาเงินมาได้ทันในช่วงที่จะย้ายน้องไป รพ.ศิริราช จึงโพสต์ขอหน้าเฟซ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นกระแส (คนละส่วนยังไงวะ นั่นลูกมึงนะ ไม่คิดจะเสียสละเลยไง๊ !)
6. ยอดเงินยังไม่นิ่งเพราะเป็นบัญชีที่เปิดไว้ให้ลูกชาย
7. คุณพ่อบอกว่าวันนี้จะมาแถลงอีกรอบ
8. ใดๆ คือแม่เหวี่ยงสุด คนที่น่าสงสารที่สุดคือคนโอนช่วยค่ารักษา
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทางฝั่งคุณแม่จึงได้โพสต์สเตตัสย้อนกลับความไม่หวังดีไปสู่ตัวผู้ไม่หวังดี และขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและช่วยเหลือน้อง โดยบอกว่าเงินบริจาคที่เหลือจะอัพเดทให้ทราบว่าทำอะไรไปบ้างหลังรักษาลูกชายจนหายดีแล้ว
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: @redskullinlove
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น