ในช่วงที่เชื้อไวรัส Covid-19 กำลังระบาด รัฐบาลในหลายๆ ประเทศต่างก็ออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด
ทำให้ผู้คนต้องอาศัยอยู่บ้านไม่ออกไปไหน ก็เลยมีเวลาว่างกันมากขึ้น แน่นอนว่าหลายๆ คนก็มีกิจกรรมให้ทำฆ่าเวลาแตกต่างกันออกไป
แต่ในประเทศออสเตรเลียแล้วกลายเป็นว่าผู้คนหันมา ‘สูบกัญชา’ กันมากขึ้น จนทำให้เหล่าพ่อค้ายาต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
ตามรายงานของสำนักข่าว Vice News ที่ได้ไปสัมภาษณ์พ่อค้ายานามสมมติว่า Anthony และเขาก็เผยให้ทราบถึงถึงสถานการณ์อันยากลำบากในการทำงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
Anthony ให้ข้อมูลว่าเขาทำธุรกิจอยู่ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่เพิ่งจะประกาศล็อกดาวน์ขั้นที่ 4 ไปเมื่อเร็วๆ นี้
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนค้ายา? นาย Anthony เล่าว่า “ผมต้องเผชิญกับกำลังซื้อที่มากมายมหาศาลของลูกค้า พวกเขามีความต้องการ ‘กัญชา’ เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว จนพวกเราหาของมาขายให้ไม่ทัน”
“คนส่งของต้องทำงานกันอย่างหนัก จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลยทีเดียว”
“ถ้าจะให้นับเป็นเปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่าน่าจะเพิ่มมาที่ 15-20% ได้เลยล่ะ บางคนจากที่ซื้อที่ละน้อยๆ ตอนนี้ก็สั่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว”
“จากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ ผมคิดว่าผู้คนน่าจะเบื่อตอนอยู่ที่บ้านเฉยๆ และพยายามที่จะหาวิธีในการฆ่าเวลา” Anthony กล่าว
ฟังข้อมูลจากทางฝั่งผู้ขายมาบ้างแล้ว เราลองมาดูข้อมูลเชิงสถิติจากงานวิจัยกันบ้าง ล่างสุดจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย University of New South Wales ที่ทำให้กับหน่วยงานวิจัยยาเสพติดแห่งชาติ (National Drug and Research Centre)
เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มีคนเลือกที่จะหันหน้ามาลองสูบกันชาเพิ่มขึ้นถึง 41%!!
นอกจากนี้จากคนที่เคยสูบกัญชาอยู่แล้ว จำนวนกว่า 57% จากทั้งหมด ก็หันมาใช้กัญชาเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น