กลายเป็นรายการเรียลลิตี้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสหราชอาณาจักร ทั้งๆ ที่เพิ่งปล่อยมาเพียงแค่ตัวอย่างรายการเท่านั้นเอง กับรายการทีวีที่มีชื่อว่า Meat the Family
Meat the Family คือรายการทีวีที่มาในรูปแบบของการทดลองทางสังคม โดยทางรายการจะตามถ่ายทอดการใช้ชีวิตของ 4 ครอบครัวในสหราชอาณาจักร
โดยทั้ง 4 ครอบครัวนั้นเป็นคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์เอามากๆ ชนิดที่มองว่ามันคือส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาไปแล้ว และไม่คิดว่าจะมีเหตุผลไหนที่ต้องเลิกกินเนื้อสัตว์เลยจริงๆ
แต่หลังจากมาร่วมรายการนี้ พวกเขาอาจต้องเปลี่ยนความคิดนั้นไปตลอดกาล
และสำหรับการทดลองทางสังคมที่ว่านั้นก็คือ ทางรายการจะให้แต่ละครอบครัวเลี้ยงสัตว์กันคนละชนิด
ซึ่งพวกมันทั้ง 4 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจานโปรดของแต่ละครอบครัว เช่น ครอบครัวไหนชอบกินวัว ก็ให้เอาลูกวัวไปเลี้ยง
สัตว์ทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ หมู ไก่ แกะ และวัว โดยพวกเขาจะต้องเลี้ยงดูพวกมันนาน 3 สัปดาห์ ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูแล ให้อาหาร และได้ใช้เวลาว่างไปด้วยกัน เล่นกับพวกมัน ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่วไป
ทั้ง 4 ครอบครัวต้องดูแลสัตว์เหล่านี้เหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน
ในช่วง 3 สัปดาห์นั้น นอกจากที่พวกเขาจะใช้เวลาไปกับเจ้าสัตว์ตัวน้อยแล้ว ก็ยังจะได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกรรมวิธีในโรงงานหรือฟาร์มปศุสัตว์ รู้ว่าสัตว์ที่เลี้ยงจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าหากพวกมันต้องกลายมาเป็นอาหารให้กับคน
และความน่าสนใจของรายการนี้ก็คือตอนหลังสิ้นสุด 3 สัปดาห์ ทั้ง 4 ครอบครัวจำเป็นต้องเลือกว่า “จะให้มันอยู่ต่อไปหรือกลายเป็นมื้ออาหาร?”
ถ้าหากพวกเขาเลือกให้มันรอด พวกเขาก็จะต้องเลิกกินเนื้อไปตลอดชีวิตและเดินทางสายมังสวิรัติแทน แต่ถ้าพวกเขาเลือกให้มันตาย ทุกคนในครอบครัวก็จะต้องนั่งกินเนื้อที่ถูกทำมาจากสัตว์ที่เลี้ยงมาเองกับมือ
Virginia Mouseler นักวิเคราะห์ชาวอังกฤษ มองว่าเนื้อหาของรายการนี้ถือว่ามีความรุนแรง มันเหมือนกับว่าทางรายการกำลังตั้งคำถามกับทั้ง 4 ครอบครัวนี้ว่า…
“คุณยังคงกอดน้องหมาของตัวเองอยู่ได้อย่างไร ในขณะที่คุณกำลังนำสัตว์อื่นใส่เข้าไปในตู้อบ?”
ถ้าเรามองว่าน้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเรา เราทำใจกินมันไม่ได้ แล้วถ้าเราต้องเลี้ยงหมูล่ะ อย่างนั้นแล้วเราจะยังทำใจกินหมูได้อยู่มั้ย?
สำหรับรายการ Meat the Family นั้นก็จะออกฉายผ่านช่อง Channel 4 ในประเทศอังกฤษ โดยจะเริ่มฉายตอนแรกในช่วงปีใหม่ ปลายปี 2019 ที่จะถึงนี้
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Red Arrow Studios , TheGuardian , nypost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น