นับว่าเป็นข่าวที่อาจจะสร้างความแตกตื่นให้คนรักฮอทพอต หรือชาบูอีกข่าวหนึ่งเลยก็ว่าได้ เมื่อในวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานข่าว…
ชายชาวจีนวัย 46 ปีคนหนึ่ง ซึ่งต้องถูกส่งตัวเขาโรงพยาบาลจากอาการชักอย่างรุนแรง เนื่องจากมีพยาธิตัวตืดในสมอง หลังจากที่ไปทำอาหารประเภทฮอทพอตทานเองที่บ้าน
อ้างอิงจากรายงานของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์เจ้อเจียง คนไข้ของพวกเขาถูกส่งตัวเขามายังโรงพยาบาลหลังจากที่มีอาการทางระบบประสาทหลายอย่าง เช่นปวดหัววิงเวียน แขนขากระตุกคล้ายโรคลมชัก และมีฟองที่ปากดังนั้น พวกเขาจึงทำการตรวจสอบสมองคนไข้เป็นการด้วยด้วยระบบ MRI
พวกเขาพบว่าคนไข้นั้น มีบาดแผลจำนวนมากในสมองของเขา ซึ่งเป็นสัญญาณของอาการโรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาท (Neurocysticercosis) อันเกิดจากการที่ร่างกายรับไข่ของพยาธิตัวตืด (Taenia solium) เข้ามา และตัวอ่อนที่ฝักออกมาจากไข่เดินทางขึ้นไปยังสมอง
เมื่อถามถึงสาเหตุที่น่าจะทำให้เกิดอาการดังกล่าว ผู้ป่วยก็บอกกับทีมแพทย์ว่า ราวๆ 1 เดือนก่อนเขาได้ทำฮอทพอตทานเองที่บ้าน ดังนั้นทีมแพทย์จึงสันนิษฐานกันว่าเนื้อหมูที่เขาทานในวันนั้น อาจจะปนเปื้อนไข่ของพยาธิ และคนไข้เองก็บังเอิญปรุงอาหารไม่สุกพอที่จะฆ่าพยาธิอ้างอิงจากคำพูดของเจ้าตัว
การที่พยาธิเข้าสู่สมองของมนุษย์นั้น สำหรับหลายๆ คนแล้วอาจจะเป็นอะไรที่ฟังดูเกิดขึ้นได้ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาทนับว่าเป็นอะไรที่เกิดขึ้นบ่อยมากกว่าที่เราคิดมาก
ไข่ของพยาธิตัวตืด
นั่นเพราะ โรคพยาธิตืดหมูไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในเหตุหลักๆ ที่คนทั่วโลกมีการอาการชักรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลเท่านั้น แต่มันยังอาจมีอันตรายได้ถึงชีวิต
ดังนั้น มันจริงนับว่าเป็นโชคดีมากสำหรับชายชาวจีนคนนี้ ที่เขาถูกส่งตัวเข้าพบแพทย์อย่างทันท่วงที ซึ่งทำให้ทีมแพทย์สามารถจัดการตัวอ่อนพยาธิและลดความดันในสมองของเขาได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามนี่ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ของคนที่ชอบลวกอาหารไวๆ ในการทานฮอทพอต (และคนทั่วๆ ไปที่ชอบทานของดิบ) ได้เป็นอย่างดีเลย
ที่มา livescience, cnn และ washingtonpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น