“พลาสติกกลายเป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกที่แล้ว” นี่ถือว่าเป็นคำพูดที่ถูกต้องมากๆ สำหรับสภาพของโลกในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวันนี้จะเป็นในเมืองในป่า หรือแม้แต่ในทะเล เราก็จะสามารถพบกับขยะพลาสติกถูกนำไปทิ้งเอาไว้ได้ไม่ยาก และมันก็กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญอีกข้อของโลกในปัจจุบันเลยด้วย
ดังนั้น นี่จึงอาจจะไม่ใช่ข่าวที่ดีสำหรับหลายๆ คนมากนัก เพราะเมื่อล่าสุดนี้เองในระหว่างการตรวจสอบสัตว์น้ำลึกสายพันธุ์ใหม่ที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน สิ่งที่อยู่ในตัวของมัน กลับเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอย่างพลาสติกเสียอย่างนั้น
โดยเจ้าสัตว์น้ำลึกตัวใหม่ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ เป็นสัตว์ในตระกูลครัสเตเชียน (สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง) ซึ่งอาศัยอยู่ลึกลงไปราวๆ 7 กิโลเมตร ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ในพื้นที่ร่องลึกบาดาลมาเรียนา สถานที่ที่ได้ชื่อว่าอยู่ลึกที่สุดในโลก และมีจุดเด่นอยู่ที่ขาจำนวนมาก และตัวที่ค่อนข้างกลม
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ลักษณะที่เด่นที่สุดของเจ้าครัสเตเชียน ตัวนี้ กลับเป็นเรื่องน่าสลดอย่างการที่พวกมันถูกพบว่ากินพลาสติกเข้าไปในตัวแทนที่จะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นราวกับเป็นการประชด นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งชื่อให้มันว่า Eurythenes plasticus อ้างอิงจากคำว่าพลาสติกเสียเลย
วิดีโอข้อมูลของ Eurythenes plasticus
https://www.facebook.com/worldwildlifefund/videos/541680533134388/
“นี่นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องบันทึกไว้ในอนุกรมวิธานเลย” คุณ Alan Jamieson จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลผู้นำการสำรวจกล่าว “เราเพิ่งออกแถลงการณ์เพื่อบอกว่าตอนนี้ เรามาถึงจุดที่สัตว์สายพันธุ์ใหม่จากแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งยังไม่ได้รับการสำรวจ ถูกค้นพบในสภาพที่ปนเปื้อนด้วยพลาสติกแล้ว”
“เราจำเป็นจะต้องดำเนินการอะไรสักอย่างในทันทีแล้ว เพื่อหยุดยั้งขยะพลาสติกในมหาสมุทรของเรา”
อย่างอิงจากข้อมูลของคุณ Alan พลาสติกที่ถูกพบในตัว E. plasticus มีไมโครไฟเบอร์ราวๆ 83% ใกล้เคียงกับพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (พลาสติก PET)
ดังนั้นพลาสติกในตัวของ E. plasticus จึงน่าจะมาจากขยะอย่างขวดน้ำพลาสติกหรือเสื้อบางชนิด ซึ่งถูกทิ้งในทะเลและจมลงสู่ร่องลึกบาดาลมาเรียนาอีกที
ขยะเหล่านี้ ขึ้นชื่อเรียงการสร้างปัญหาให้สัตว์น้ำมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะในกรณีที่พวกมันเข้าไปเกี่ยวตามตัวสัตว์น้ำ หรือแม้แต่การถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารและกินเข้าไปอย่างในกรณีนี้
“พลาสติกในทะเลจะเก็บสิ่งปนเปื้อนเอาไว้และจมลงพื้นทะเล มันทำให้สัตว์ทะเลลึกเข้าใจผิวและกินมันเข้าไป ทำให้สิ่งปนเปื้อนติดตามตัวสัตว์ไปด้วย ซึ่งเราก็ทราบกันแล้วว่าสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ลดความสามารถในการสืบพันธุ์ได้สำเร็จของสัตว์ลง” คุณ Alan ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น