อย่างที่เพื่อนๆ น่าจะทราบกันว่า “การมีเซ็กส์เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา” โดยเรื่องนี้ก็ได้รับการยืนยันแล้วจากงานวิจัยจำนวนมาก
เพราะอย่างนั้นเอง ผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ ประเทศจึงแนะนำให้เลี่ยงการมีเซ็กส์ไปก่อนในช่วงเวลานี้ หรือบางคนก็อาจจะบอกว่ามีได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างกัน 2 เมตร…
แต่สำหรับ มหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ได้ทำคู่มือแนะนำมาให้กับนักศึกษาทุกคน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตเซ็กส์ในช่วงการแพร่ระบาด ซึ่งบางข้อแนะนำก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย
ดูอย่างข้อแนะนำแรกของพวกเขาก็คือ “ตัวเราเองคือคู่นอนที่ปลอดภัยมากที่สุด” หรือก็คือแนะนำให้ช่วยตัวเองซะจะดีกว่า หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ควรจำกัดจำนวนคู่นอน มีแค่คนเดียวได้ยิ่งดี
อีกข้อก็คือแนะนำให้หลีกเลี่ยงการจูบ และควรมีความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบท่าทางการมีเซ็กส์โดยที่ไม่ต้องหันหน้าเข้าหากัน (อันนี้ #เหมียวตะปู ว่า “ด็อกกี้” กับ “รีเวิร์สคาวเกิร์ล” น่าจะพอช่วยได้นะ)
แต่ข้อที่ทำให้เหล่าวัยรุ่นอเมริกันสนใจมากที่สุดก็คือ “ควรสวมหน้ากากอนามัยขณะมีเซ็กส์” เพราะการหายใจแรงๆ อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นมา การใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันในส่วนนี้ได้
สวมหน้ากากระหว่างมีเซ็กส์… #เหมียวตะปู รู้สึกคุ้นๆ ยังไงชอบกล
เพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยินกันมาว่าบางประเทศมีการประท้วงเกี่ยวกับเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย หนึ่งในนั้นก็คือสหรัฐอเมริกานี่แหละ
เพราะเหตุนั้นเอง เมื่อทางมหาวิทยาลัยออกมาแนะนำให้นักศึกษาสวมหน้ากากอนามัยระหว่างมีเซ็กส์ จึงกลับถูกมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลก ไม่สามารถช่วยได้จริง
ถึงอย่างนั้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคำเตือนในลักษณะนี้ออกมา เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เคยออกมาบอกว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะมีเซ็กส์สามารถช่วยป้องกันการแพร่ระบาดได้จริง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่ข้อแนะนำเท่านั้น ส่วนจะทำหรือไม่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาหรือตัวบุคคลเองว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น