Facebook เปิดตัวสองโครงการเจ๋ง แว่น AR ตัวใหม่ และสายรัดข้อมืออ่านคลื่นสมองควบคุมแขนใน VR

ในช่วงเช้าของวันนี้ ภายในงานเปิดตัวเทคโนโลยี AR/VR ใหม่อย่าง “Facebook Connect” นาย Mark Zuckerberg ผู้เป็น CEO ของ Facebook ได้ออกมาเปิดเผยเทคโนโลยี AR/VR ใหม่จำนวนมาก

นอกจาก Oculus Quest 2 ระบบเกม VR พระเอกเองงานแล้ว ทาง Facebook ยังได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์ AR/VR ที่น่าสนใจพร้อมกันอีกถึงสองตัว

ซึ่งประกอบไปด้วยแว่น AR ตัวใหม่ และสายรัดข้อมือ EMG ที่จะทำให้เราใช้งานมือในโลก VR ได้อย่างแม่นยำ

Project Aria

แว่นตัวใหม่นี้เป็นแว่นตา Augmented reality อัจฉริยะที่กำลังถูกพัฒนาภายใต้ชื่อ “Project Aria”

โดยมันเป็นแว่นซึ่งอาศัยการผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกจำลอง และถูกอธิบายว่าจะกลายเป็นรากฐานของการพัฒนาระบบ AR ของ Facebook ในอนาคตอีกที

โปรเจ็กต์ที่ว่านี้ในเบื้องต้นเป็นเพียงระบบต้นแบบที่ทำขึ้นมาเพื่อทดลองการทำงานของแว่น AR เท่านั้น และเราก็แทบจะไม่มีข้อมูลการทำงานของมันนัก นอกจากที่ว่ามันจะไม่ได้ทำงานตามที่ระบบ AR ตามปกติมักจะทำ

อย่างไรก็ตามทาง Facebook ก็เชื่อว่า แว่น AR ของพวกเขาจะพร้อมปล่อยสู่ท้องตลาดได้ อย่างเร็วที่สุดในปี 2021 ภายใต้ความร่วมมือของบริษัท Ray-Ban อีกที

Electromyography bracelet

ตรงข้ามกับ Project Aria สายรัดข้อมือ Electromyography หรือ “EMG” คือระบบติดตามการเคลื่อนไหวของมือ เพื่อให้ผู้ใส้สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ในโลก VR และ AR ได้อย่างแม่นยำแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ระบบตัวนี้เป็นเทคโนโลยีที่ถูกต่อยอดมาจากสายรัดข้อมือของ CTRL-labs ซึ่งถูก Facebook ซื้อไปเมื่อปี 2019

โดยมันถูกระบุว่าเป็นตัวอ่านสัญญาณคลื่นไฟฟ้าจากร่างกายของเรา ซึ่งทำให้มันสามารถทราบ “ความต้องการที่จะเคลื่อนไหว” ของมือและส่งข้อมูลไปยังระบบ VR

ซึ่งลักษณะเช่นนี้เองไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมแขนใน VR ได้อย่างแม่นยำด้วยความคิดเท่านั้น แต่ตัวสายรัดยังสามารถส่ง “ความรู้สึกในการสัมผัส” กลับไปยังผู้ใช้ได้ด้วย

ที่สำคัญการอ่านคลื่นไฟฟ้าแทนที่จะเป็นการเคลื่อนไหวโดยตรง ก็ยังสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้แม้แต่นิ้วหรือแขน “พิเศษ” ที่ไม่มีอยู่จริงด้วย ไม่ว่าจะในฐานะนิ้วที่ 6 สำหรับคนธรรมดา หรือนิ้วที่หายไปสำหรับคนพิการ

นี่นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ว่าสนใจอีกชุดหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี AR/VR นั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

และดูจากการมุ่งเน้นและทุ่มทุนไปยังเทคโนโลยี AR/VR ของบริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้ เราก็คงจะเชื่อได้ว่าอนาคตของ AR/VR ที่กล่าวมานั้น คงจะเป็นอะไรที่สดใสอย่างไม่น่าเชื่อเลย

วิดีโอเต็มๆ ของ Facebook Connect

ที่มา theverge, reportdoor, lifehacker