เป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบกันแต่ปลาหลายๆ ชนิดจริงๆ แล้วก็ชอบว่ายเข้าหาแสงไฟไม่ต่างอะไรกับแมลงเม่า ซึ่งนักตกปลาทั่วโลกก็ได้มีการใช้ประโยชน์จากลักษณะเหล่านี้ในการล่อพวกมันเข้าสู่แหดักจับมาตั้งแต่ในอดีต
แน่นอนว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป วิธีการใช้แสงในการจับปลาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จากที่คนเราเคยใช้ไม้กับน้ำมัน นักตกปลาก็เปลี่ยนไปใช้แสงจากไฟฟ้าที่มาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล อย่างไรก็ตามสำหรับที่ไต้หวันพวกเขายังมีชาวประมงกลุ่มหนึ่งซึ่งยังคงรักษาประเพณีการล่อปลาด้วยไม้ไผ่และไฟจากกำมะถันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
พวกเขาคือเหล่านักจับปลาจากเมืองจินซาน ทางตอนเหนือของไทเป นักจับปลาราวๆ 30 ชีวิตที่จะออกเดินทางไปกับเรือหาปลาร่วม 300 ลำในช่วงเดินพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เพื่อจับปลาซาร์ดีนในทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน
พวกเขาจะใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมงต่อคืนในช่วงเวลานี้ และหากโชคดี ในหนึ่งคืนพวกเขาก็อาจจะจับปลาได้มากถึง 3-4 ตัน ซึ่งนับเป็นเงินราวๆ 136,000 บาทเลย
นับว่าน่าเสียดายมากที่ในปัจจุบัน คนหนุ่มสาวเริ่มไม่คิดที่จะสืบสานการจับปลาในรูปแบบนี้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากการนี่เป็นการจับปลาแบบที่ทั้งเหนื่อยและมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ดังนั้นคนที่ยังคงเหลือจับปลาแบบนี้อยู่ จริงมีแต่คนชราอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปทั้งนั้น
ความเสี่ยงที่ประเพณีโบราณจะหายไปนี้เองทำให้รัฐบาลมีการออกมาส่งเสริมให้ชาวประมงกลับมาใช้วิธีการจับปลาดั้งเดิมกันมากขึ้นด้วยวิธีการมากมายอย่างการให้เงินสมทบ อย่างไรก็ตามเงินก้อนเล็กๆ เหล่านี้ก็เทียบไม่ได้เลยกับความเสี่ยงในการตกปลาด้วยวิธีดั้งเดิม
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความพยายามในการคืนชีพการจับปลาในรูปแบบนี้ของรัฐบาลก็ใช่ว่าจะไม่ประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่น้อยแต่อย่างไร เพราะเมื่อหลายปีก่อนในตอนที่ทางภาครัฐจัดงานตกปลาด้วยกำมะถันประจำปีขึ้น เทศกาลในเวลานั้นก็ได้ประสบกับความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเกิดเป็นภาพสุดงดงามที่จะถูกจดจำ ไปอีกนานแสนนานเลย
ที่มา amusingplanet
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น