ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นความตลกร้ายที่แฝงมากับโปรโมชั่นของร้านซูชิสายพานหรือเปล่านะ ก็เพราะดันเล่นกับชื่อคนที่ต้องมีคำว่า ‘鲑鱼’ หรือ แซลมอน เท่านั้นถึงจะสามารถขอรับสิทธิ์โปรโมชั่นพิเศษนี้ได้
หนึ่งในร้านซูชิสายพานเจ้าหน้าของไต้หวันได้จัดโปรโมชั่นสุดว้าวและสั้นเหลือเกิน นั่นก็คือ เปิดโอกาสให้ลูกค้าคนใดก็ตามที่มีชื่อปรากฎอยู่ในบัตรประชาชนที่มีตัวอักษรคำว่า ‘แซลมอน’ ก็จะสามารถทานซูชิโปรโมชั่นพิเศษแบบไม่อั้นได้พร้อมกับเพื่อน 5 คน
ส่วนใครที่มีชื่อพ้องเสียงก็จะได้รับส่วนลด 50% ส่วนใครที่มีชื่อพ้องเสียงอย่างน้อย 1 ตัวก็จะได้รับส่วนลด 10% โปรนี้จัดเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
พอข่าวของโปรโมชั่นตัวนี้เริ่มกระจายไปในวงกว้าง ความน่าสนใจของมันก็เริ่มหลังจากนี้แหละ นั่นก็เป็นเพราะว่ามีคนแห่ไปขอเปลี่ยนชื่อกับทางสำนักงานท้องถิ่นกันเป็นจำนวนมาก มากเป็นหลัก 150 คนกันเลยทีเดียวแหละ เมื่อถามถึงจุดประสงค์ทำไมถึงต้องเปลี่ยนชื่อ ก็เพื่อไปกินซูชิฟรียังไงล่ะ!
คนที่เข้ามาขอเปลี่ยนชื่อให้มีคำว่า ‘แซลมอน’ ก็จะอยู่ในช่วงอายุวัยรุ่นเป็นส่วนมาก ชื่อของแต่ละคนก็สุดแสนจะสรรหากันมาตั้งไม่ว่าจะเป็น ‘แซลมอนโคตรหล่อ’ ‘ความฝันของแซลมอน’ ‘ข้าวหน้าแซลมอน’ หรือชื่อโคตรจะยาวแบบ “นายเฉินคนรักไต้หวัน หอยเป๋าฮื้อ ทูน่า แซลมอน ปูหิมะ เม่นทะล หอยเชลล์ ล็อบสเตอร์ และเนื้อวัว”
นางหลีราชันย์ปลาขอท้าชิงราชันย์แซลมอน (เปลี่ยนชื่อกันแบบนี้แหละ)
หนึ่งในพ่อหนุ่มแซลมอนโคตรหล่อเปิดเผยว่า ในวันนั้นเขาทานซูชิฟรีไปราวๆ 7,600 บาท บางส่วนก็เอามาคุยโม้กันในบอร์ดออนไลน์ว่ากินไปได้ 14,000 บาทแหนะ แข่งกันทำลายสถิติ ว่าซ่านนนน
สำนักข่าวท้องถิ่นไต้หวันถึงกับตั้งให้เป็นวันหายนะแห่งแซลมอนเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่มีคนแห่ไปเปลี่ยนชื่อเป็นแซลมอนเยอะมากๆ เพื่อหวังจะกินซูชิไม่อั้นฟรีๆ จากนั้นก็กลับมาขอเปลี่ยนเป็นชื่อเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทางด้านกรมกิจการพลเรือนไทเปถึงขั้นต้องออกมาเตือนกันเลยว่า การมาขอเปลี่ยนชื่อตามกฎหมายของไต้หวันแล้วจะอนุญาตให้เปลี่ยนได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น เกินกว่านั้นไม่ได้แล้ว ต้องใช้ชื่อนั้นไปตลอดชีวิตที่เหลือ
และการมาขอเปลี่ยนชื่อกลับไปกลับมาเช่นนี้ทำให้หน่วยงานเสียเวลาและต้องทำงานเอกสารที่ไม่จำเป็น
แน่นอนครับ มันมีคนซวยเพราะเปลี่ยนชื่อ…
เขาคนนั้นก็คือ นายจาง ความฝันของแซลมอน นักเรียนแพทย์แผนจีนคือหนึ่งในคนที่เข้าไปขอเปลี่ยนชื่อเพื่อกินซูชิฟรีไม่อั้นเหมือนกัน
แต่ปรากฎว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่าพ่อกับแม่เคยขอเปลี่ยนชื่อของเขาไปแล้ว 2 รอบ และพอไปเปลี่ยนชื่อเป็นแซลมอนก็นับเป็นครั้งที่ 3 หรือครั้งสุดท้าย
พอหลังจากเปลี่ยนชื่อเสร็จปุ๊บ นั่นแหละ เจ้าหน้าที่บอกเลย ‘เปลี่ยนไม่ได้แล้วนะ’ นั่นก็ทำให้เจ้าตัวเพิ่งรู้ว่า เออ เฮ้ย พ่อแม่เคยมาขอเปลี่ยนชื่อด้วยเหรอเนี่ย แล้วความฝันของแซลมอนก็คงต้องติดตัวไปตลอดชีวิตแล้วน่ะสิ ปัดโถ่!
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: taipeitimes, taiwannews, hongkongfp, straitstimes, appledaily
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น