CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ความจริงเบื้องหลังภาพ “กระต่ายยักษ์สีชมพู” บนเนินเขาอิตาลี ให้ข้อคิดเตือนใจมนุษย์…

หากพูดถึงภาพของ “กระต่ายยักษ์นอนไส้ไหล” เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนก็น่าจะพอคิดออกกันบ้าง เพราะภาพดังกล่าวนั้นกำลังเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์อยู่ ณ ตอนนี้

 

ภาพดังกล่าวที่หลายคนให้ความสนใจ

.

 

เมื่อเห็นภาพแล้วหลายๆ คนก็อาจสงสัยกันว่ามันคืออะไร? วันนี้ #เหมียวตะปู เลยจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้กับทุกคนไปพร้อมๆ กัน…

เจ้ากระต่ายยักษ์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนผืนหญ้านี้มีชื่อว่า Giant Pink Bunny (กระต่ายยักษ์สีชมพู) ซึ่งมันก็คือผลงานศิลปะของกลุ่มศิลปินที่มีชื่อว่า Gelitin

 

กลุ่มศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Gelitin

 

ศิลปินทั้ง 4 คนจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้นำเอางานศิลปะดังกล่าวไปจัดแสดงไว้บนเนินเขา Colletto Fava Mountain ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี

ผลงานศิลปะชิ้นนี้มีความยาวกว่า 200 ฟุต (ประมาณ 60 เมตร) และสูง 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) ถูกถักทอขึ้นมาด้วยวัสดุจากธรรมชาติที่มีความอ่อนนุ่มและกันน้ำ ยัดไส้ด้านในด้วยฟางข้าว

 

ภาพในตอนที่พวกเขากำลังช่วยกันสร้างผลงานศิลปะขนาดยักษ์นี้ขึ้นมา

 

พวกเขาได้นำตุ๊กตาขนาดยักษ์นี้ไปจัดแสดงเอาไว้ตั้งแต่ปี 2005 เพื่อเป็นเหมือนแลนด์มาร์กให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปนอนเล่นบนตัวของเจ้ากระต่ายได้

 

ให้เรารู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ตัวจิ๋วในนวนิยายชื่อดังเรื่อง Gulliver’s Travels

 

แต่ทว่าพอผ่านไปนานปี เจ้ากระต่ายยักษ์ตัวนี้ก็เริ่มค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ร่างกายของมันเริ่มค่อยๆ ย่อยสลายกลืนไปกับสภาพแวดล้อม

โดยในตอนแรกพวกเขาตั้งเป้าเอาไว้ว่ากระต่ายยักษ์ตัวนี้จะอยู่ได้นานสัก 20 ปี หรือก็คือถึงปี 2025 แต่เมื่อผู้คนเดินทางไปดูกับตาถึงพบว่าสภาพของมันไม่สามารถคงเอาไว้ได้จนถึงตอนนั้น

 

ภาพตอนที่เจ้ากระต่ายต้องเผชิญกับความหนาวเย็นในปี 2006

 

สีของมันเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2007

 

ภาพในปี 2011

.

 

ภาพในเดือนมกราคม 2020 ที่ดูไม่ออกแล้วว่ามันคืออะไร

 

สุดท้ายคือภาพจาก Google Map เผยให้เห็นเพียงร่องรอยโครงสร้างของผลงานศิลปะดังกล่าว

 

ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ไม่มีสิ่งใดที่จีรังยั่งยืน ต้องไม่ลืมที่จะรู้จักกับคำว่า “ปล่อยวาง”

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: WindowSeat , AtlasObscura


Tags:

Comments

ใส่ความเห็น