จากประเด็นเรื่องที่นักศึกษาสาว ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ที่คุณปู่ของตัวเองเอาโฉนดที่ดินไปใช้เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัวญาติ แต่ถูกตำรวจเจ้าของคดีเอาโฉนดไปกู้เงินและไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยจนเกือบโดนยึด
ล่าสุดก็มีอัปเดตเพิ่มเติม และดูเหมือนว่าจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวนี้แล้ว ทีมงานแคทดั๊มบ์ก็เลยหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ
อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : สาวร้อง ปู่เอาโฉนดที่ดินประกันตัวญาติ กำลังจะโดนยึด เหตุร้อยเวรเอาไปกู้เงิน แล้วไม่ยอมจ่าย
อัปเดตแรก : คืบหน้า!! ตำรวจเร่งคืนโฉนดให้คุณปู่ หลังถูกร้อยเวรเอาไปกู้เงิน แล้วไม่ยอมจ่าย เกือบโดนยึด
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ในวันที่ 8 ก.พ. 2564 (วันนี้) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองตราด ได้มีการนัดเคลียร์ปัญหาดังกล่าว
นำโดย พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ รองผบก.ภ.จว.ตราด พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองตราด นายวศิน พงษ์ศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ทั้ง 3 คนข้างต้น ได้พา ร.ต.อ.กัณตภณ สักขาพรม พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตราด ผู้ก่อเหตุนำโฉนดไปกู้เงิน
พร้อมด้วยนายจเร เศษนิยม วัย 74 ปี เจ้าของโฉนดที่ดิน หลานสาวน.ส.เอ วัย 19 ปี และญาติ เดินทางเข้ามารับมอบโฉนดที่ดิน ที่ถูกนำไปจำนำ

ระหว่างที่มีการมอบโฉนดที่ดิน ทางด้าน ร.ต.อ.ก็ได้มีการกราบคุณปู่จเรเพื่อเป็นการขอโทษที่ทำให้ต้องเดือดร้อน

โดย พ.ต.อ.นาวิน เปิดเผยรายละเอียดว่าโฉนดที่ดินของนายจเร ที่ใช้มาเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัวหลานชายของตัวเองชื่อว่านายสุพัฒน์ วงษ์ทอง ที่ถูกคดีบุกรุก และอนาจาร แต่ทว่ามาทราบภายหลังว่า ร.ต.อ.กัณตภณ ได้นำไปจำนองกับนายทุนเงินกู้
ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง เป็นคดีความที่ยอมความกันได้ จึงได้ตรวจสอบและหาข้อเท็จจริง และพบว่าเป็นความจริง
ทางสภ.เมืองตราด จึงดำเนินการให้ ร.ต.อ.กัณตภณ นำเงินมาไถ่ถอนโฉนดคืนให้ในวันนี้ ส่วนการดำเนินคดีต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับนายจเร ว่าจะดำเนินการอย่างไร (ย้ำว่ายอมความกันได้)
ส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น ทางสภ.เมืองตราด ได้จัดตั้งกรรมการสอบทางวินัยขึ้นมาแล้ว ซึ่งอาจมีโทษถึงไล่ออก แต่ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้บังคับบัญชารับปากไว้ว่าจะเซ็นให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน

ทางด้าน ร.ต.อ.กัณตภณ เปิดเผยเรื่องราวในฝั่งของตัวเองว่า เป็นนายสุพัฒน์ วงษ์ทอง ที่นำโฉนดของคุณปู่เจรมาประกันตัว แต่ได้ทำการตกลงและร่วมมือกันนำไปจำนองกับนายพิชัย วิสุทธิแพทย์ ในวงเงิน 500,000 บาท
จากนั้นก็นำเงินมาแบ่งกัน ทางฝั่งนายสุพัฒน์ ได้เงินไป 300,000 บาท ส่วนตัวเองได้มา 200,000 บาท ต่อมาได้ทราบเรื่องการฟ้องร้อง จึงเดินทางมาพบคุณปู่จเร และรับปากว่าจะนำโฉนดที่ดินมาคืนให้
ส่วนนายสุพัฒน์ที่เป็นหลานชายนั้นหลบหนีหายตัวไป ไม่มีใครติดต่อได้ และไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น