ชาวเน็ตจีนเปิดศึกรอบใหม่ อ้างเป็นเจ้าของ ‘ชุดฮันบก’ กล่าวหาเกาหลีใต้เป็นประเทศขี้ขโมย


กลายเป็นประเด็นดราม่ากันอีกระลอกที่เกี่ยวข้องกับ ‘ชาวเน็ตจีน’ กันอีกแล้ว และคู่กรณีที่มีเรื่องกันรอบนี้ก็ไม่พ้นเกาหลีใต้ หลังจากที่เพิ่งแย่งกันเป็นเจ้าของเมนู ‘กิมจิ’ กันไป

ชนวนดราม่าในรอบนี้มันเริ่มมาจากการที่ คิม โซ-ฮย็อน นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ได้โพสต์ภาพตัวเธอเองในชุดฮันบกจากซีรีย์เรื่องใหม่ River Where the Moon Rises เธอก็คงไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นอะไรต่อหลังจากนี้…

 

 

ทัวร์จีนลงเพื่อมาเคลมว่าชุดฮันบกไม่ใช่ของเกาหลีใต้ แต่เป็นของจีน!

กระแสตอบโต้ของชาวเน็ตจีนในโพสต์ของ โซ-ฮย็อน ที่กล่าวอวยพรตรุษจีนแก่แฟนๆ ที่ติดตามในไอจี ชาวเน็ตจีนก็อวยพรกลับเช่นกัน แถมไปด้วยการบอกว่าชุดเครื่องแต่งกายที่เธอใส่อยู่ในภาพ ชุดฮันบกนั่นแหละ มันเป็นของจีนนะ ชื่อจีนคือฮั่นฝู

 

.

.

 

‘ขอบคุณที่ช่วยโปรโมทวัฒนธรรมจีน’

 

นอกจากจะพูดถึงเรื่องชุดแล้ว ยังลามไปถึงการกล่าวหาว่าประเทศเกาหลีใต้เป็นขี้ขโมยทางวัฒนธรรม แอบอ้างนำชุดฮันบกมาเป็นของเกาหลีใต้ แต่ในความจริงมันเป็นของ ‘จีน’

 

‘ขนาดลอกไปยังทำไม่ถูกเลย ปกคอขวาควรอยู่ใต้ปกคอซ้าย คุณไม่รู้เหรอ? ใส่เหมือนพวกคนเถื่อนเลย อยากจะขโมยไปใช้ยังขโมยไม่ถูก เคยยอมรับมาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว เกาหลีเต็มไปด้วยพวกไร้อารยะป่าเถื่อน’

 

เหตุการณ์เดียวกันในอดีต

กรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วในปี 2018 เมื่อชาวเน็ตจีนพากันจัดทัวร์ไปลงกับนางแบบสาวชาวจีน หลิว เหวิน กับการที่เธออวยพรในไอจีว่าสุขสันต์วันตรุษจีน แต่ใช้คำว่า Lunar ไม่ได้ใช้คำว่า Chinese จนต้องยอมแก้ไขแคปชั่นภายหลัง

 

 

และยังไม่จบกับ โซ-ฮย็อน เพราะชาวเน็ตจีนยังตามไปขุดภาพเก่าของเธอที่ใส่ชุดฮันบกในซีรีย์เรื่องอื่น บอกว่าช่วยโปรโมทชุดจีนให้ดีจังเลย อะไรทำนองนี้…

 

 

ไม่รู้สึกอายบ้างเหรอที่ใส่ชุดดีไซน์ของจีนชัดขนาดนี้

 

ทำไมเครื่องประดับที่ใส่ดูคล้ายของสมัยราชวงศ์หมิงจัง

 

ออนนี่จ๋า ชุดฮั่นฝูดูสวยจังเลย แสดงเป็นคนจีนในซีรีย์เรื่องใหม่เหรอ?

 

ชาวเน็ตจีนกล่าวหาเกาหลีใต้เป็นประเทศขี้ขโมย

ศึกการเคลมในครั้งนี้เริ่มบานปลายก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างชาวเน็ตจีนกับชาวเน็ตเกาหลีใต้ เพราะเรื่องกิมจิก็ยังไม่จบ ประเด็นของชุดฮันบกก็ระอุขึ้นมาอีก

อย่างยูทูบเบอร์สาวชาวเกาหลีใต้สายเมคอัพ ปาร์ค เฮ มิน หรือในชื่อ Pony ก็ถูกชาวเน็ตจีนตามมาถล่มอย่างไม่ยั้ง โดยเฉพาะในคลิปที่เธอสวมใส่ชุดฮันบกแต่งหน้า

 

 

ทางฟากฝั่งโซเชียลจีนก็นำเธอมารุมด่ากล่าวหาว่าใส่ชุดของจีน มีปิ่นปักผมแบบจีน ซื้อมาจากแพลทฟอร์มจีน (เถาเป่า) แต่นำมาใช้โปรโมทวัฒนธรรมเกาหลี

 

 

พวกเขาถึงขั้นเรียกร้องให้ Pony ออกแถลงการณ์เพื่ออธิบายเหตุผลในการเลือกเครื่องประดับใส่ชุดเช่นนี้ แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร และปิดช่องคอมเมนท์ไปตามระเบียบ

 

 

พอมาจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2021 เวลาประมาณ 17.00 น. เริ่มมีการตั้งแฮชแท็กประเทศขี้ขโมยที่มียอดคนเข้าชมมากกว่า 805,000 ครั้งในเวยป๋อ

 

 

พวกเกาหลีชอบอ้างเป็นเจ้าของทุกอย่าง

 

จริงๆ นางอาจอยากบอกว่าเกาหลีเป็นของจีนก็ได้นะ

 

ขนาดมดข้างถนนคงจะช็อคน่าดูว่าคนเกาหลีนั้นน่าอับอายขนาดไหน

 

พวกโจรขโมยวัฒนธรรม

 

ความบาดหมางในเรื่องชุดเครื่องแต่งกาย

ท่ามกลางกระแสในโลกออนไลน์ที่เพิ่งจะเคลมชุดฮันบกกันไป ก่อนหน้านี้มันเคยถูกจุดติดจากภาพของนักแสดงจีน สวีข่าย กับภาพถ่ายตัวเขาเองในชุดเครื่องแต่งกายดั้งเดิม ที่ใส่ระหว่างถ่ายทำซีรีย์ Royal Feast

 

 

ชุดดังกล่าวดูคล้ายกับชุดฮันบก และแน่นอนว่ามันก็นำพาให้ทั้งชาวเน็ตจากทั้งสองประเทศมาถกเถียงกัน บ้างก็ว่าขโมยการออกแบบชุดมาจากวัฒนธรรมเกาหลี บ้างก็ว่ามันเป็นของจีนอยู่แล้วไม่ได้มาจากของประเทศอื่น

ทางด้าน อวี๋ เจิ้ง โปรดิวเซอร์ของซีรีย์ดังกล่าวจึงฟาดกลับทุกคนด้วยการกล่าวว่าชุดที่สวีข่ายใส่นั้นเป็นชุดฮั่นฝูจากสมัยราชวงศ์หมิง ถึงจะดูคล้ายชุดฮันบกแต่เป็นเพราะนั่นถูกนำไปปรับใช้โดยราชวงศ์โครยอของเกาหลี

 

เกาหลีใต้โต้กลับจีน ที่เป็นแบบนี้เพราะรู้สึก ‘ถูกคุกคาม’

เพื่อเป็นการโต้กลับกับการกล่าวอ้างมาทั้งหมด ชาวเน็ตเกาหลีใต้จึงผนึกกำลังร่วมใจแสดงพลังบอกว่าชุดฮันบกเป็นของเกาหลีไม่ใช่ชุดฮั่นฝูของจีนผ่าน #hanfu_isnot_hanbok ในทวิตเตอร์

โดยชี้ไปในประเด็นของความแตกต่างในการออกแบบชุดระหว่างฮั่นฝูกับฮันบก และโจมตีดูหมิ่นไปที่ชาวจีนโดยตรง

 

 

ทางด้านสถานทีโทรทัศน์เกาหลีใต้อย่าง SBS ก็ยังเข้ามาร่วมทำเนื้อหาตอนพิเศษในประเด็นนี้ด้วย ระบุถึงการกล่าวหาของชาวเน็ตจีนที่ว่าเกาหลีใต้ขโมยวัฒนธรรมจีนมาใช้

บางส่วนที่ออกอากาศผ่าน SBS News ผู้ประกาศข่าวอธิบายว่าเหตุใดชาวเน็ตจีนถึงเรียกเกาหลีใต้ว่าเป็นประเทศขี้ขโมย

 

 

นอกจากนั้นพวกเขายังเสริมความคิดเห็นว่าชาวเน็ตจีนเพ่งเล็งเกาหลีใต้เพราะจีนกำลังรู้สึกถูกคุกคามอยู่ นั่นเป็นเพราะการเติบโตของวัฒนธรรมเคป็อบ ซีรีย์และภาพยนตร์เกาหลี นั่นจึงทำให้วัฒนธรรมหลักของเอเชียเปลี่ยนผ่านจากจีนไปอยู่ที่เกาหลีใต้

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์

ที่มา: weibo, scmp, koreaboo, 163.com, theqoo

Advertisement


Like it? Share with your friends!

0 Comments