เกิดเป็นการระดมทุนผ่านโลกออนไลน์ครั้งใหญ่ เพื่อช่วยเหลือสองเด็กหญิงที่ต้องมานั่งข้างๆ ร้าน Taco Bell อาศัยสัญญาณไวไฟเพื่อทำการบ้าน และได้ยอดระดมทุนช่วยเหลือไปมากถึง 4,400,000 บาทแล้ว
ภายของเด็กหญิงทั้งสองกลายเป็นกระแสไวรัลหลังจากที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางอินสตาแกรม โดยระบุถึงความเหลื่อมล้ำในยุคดิจิตอลที่ยังคงมีเด็กบางส่วน ไม่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาเท่าคนอื่นได้จากภูมิหลังของครอบครัว
ภาพดังกล่าวถูกถ่ายในเมืองซาลีนาส รัฐแคลิฟอร์เนีย เผยให้เห็นเด็กหญิงสองคนนั่งอยู่ข้างๆ ร้าน Taco Bell เพื่อที่จะพอจับสัญญาณไวไฟได้ และนั่งทำการบ้านจนเสร็จบนทางเท้าเช่นนี้
Ms_mamie89 บัญชีอินสตาแกรมที่นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่และได้รับอนุญาตจากแม่เด็กแล้ว ได้เตือนใจให้ผู้คนได้ตระหนักและช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ในขณะที่หลายคนไม่ต้องห่วงเรื่องไวไฟหรือสถานที่เงียบๆ เพื่อทำงานอยู่บ้าน แต่เด็กทุกคนทุกระดับชั้นควรได้รับการเข้าถึงสัญญาณไวไฟที่ไว้ใจได้และโดยเฉพาะในยุคนี้ด้วย
เราจะทำอย่างไรในฐานะชุมชนที่จะช่วยเหลือเด็กที่ต้องการบางสิ่งง่ายๆ อย่างไวไฟเพื่อไปสู่ความสำเร็จ”
https://www.instagram.com/p/CEU4tnEFLmo/
ภาพถ่ายนี้ได้ผลตอบรับในแง่บวกเป็นอย่างมาก และชุมชนชาวเมืองซาลีนาสก็ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทางเขตการศึกษาเองก็ได้เร่งพัฒนาจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ด้วย และส่งเสริมให้ใครก็ตามที่ต้องการอินเทอร์เน็ตก็สามารถติดต่อโดยตรงกับทางหน่วยงานทันที
ในวันที่ 30 สิงหาคม 2020 Jackie Lopez ชาวเมืองซาลีนาสได้จัดตั้งแคมเปญรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงกับครอบครัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้นด้วยยอดเงิน 4,400,000 บาท
คุณ Lopez ระบุว่าแม่ของเด็กเป็นแรงงานต่างถิ่นชื่อว่า Juana และเป็นคุณแม่ลูกสาม ซึ่งที่ผ่านมาเธอกับลูกต้องเผชิญกับการต้องย้ายห้องเช่าไปเรื่อยๆ จากปัญหาด้านค่าใช้จ่าย
และด้วยยอดบริจาคอันมหาศาลเช่นนี้ ทำให้ทางผู้จัดแคมเปญมีเงินมากพอที่จะจ่ายให้ทั้งแม่และลูกทั้งสามอาศัยพักอยู่ในห้องโรงแรมตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมกับสนับสนุนด้านอาหารการกิน เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
“ตอนนี้พวกเขาปลอดภัยแล้ว แต่พวกเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือมากเท่าที่จะทำได้
ขอบคุณทุกแรงที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตพวกเขา
เด็กทุกคนควรได้รับความเป็นอยู่ที่ดี และด้วยความทุ่มเทของเด็กๆ
พวกเขาก็ควรได้รับพื้นที่ดีๆ ในการเรียนรู้ด้วย
เราขอบคุณทุกความช่วยเหลือที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง”
ที่มา: thecalifornian, unilad
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น