เคยได้ยินเรื่องความขัดแย้งระหว่างสวีเดนกับโซเวียตในช่วงสงครามเย็นไหม? นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1981 จากการที่ทางสวีเดนตรวจพบเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของโซเวียตในน่านน้ำของตัวเอง
โดยในเวลานั้น ทางโซเวียตได้ระบุว่าเรือดำน้ำของพวกเขาหลุดเข้าไปในน่านน้ำของสวีเดนโดยอุบัติเหตุ และเรียกเรือดำน้ำกลับไปแต่โดยดี และเรื่องก็ดูเหมือนจะจบลงแค่นี้
ปัญหาคือในตลอดช่วงหลายปีต่อมาทางสวีเดนกลับต้องกับรายงานการพบสัญญาณเรือดำน้ำในประเทศอีกหลายต่อหลายครั้ง และไม่ว่าสวีเดน ส่งอะไรออกไปตามหาสัญญาณดังกล่าว พวกขาก็ต้องคว้าน้ำเหลวอยู่เสมอๆ
เหตุการณ์ในรูปแบบนี้ดำเนินอยู่กว่า 15 ปี และยังคงอยู่แม้สหภาพโซเวียตจะล่มสลายไป สร้างความไม่สบายใจให้กับคนในประเทศเป็นอย่างมาก ว่าทำไมทางรัสเซียถึงยังยั่วยุพวกเขาแม้สงครามเย็นจะจบลงไปแล้วเช่นนี้
โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่พวกเขาไล่ตามมาตลอด 15 ปีนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่เรือดำน้ำ แต่เป็น “ตดปลา” ต่างหาก
ความจริงของในข้อนี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในช่วงปี 1996 เมื่อคุณ Magnus Wahlberg ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นเดนมาร์ก เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนสัญญาณแปลกๆ ที่สวีเดนพบ
โดยเขาได้เปิดเผยการสืบสวนในครั้งนี้ในงาน TEDx Talk ปี 2012 ว่า
“เราถูกนำตัวเข้าไปในห้องลับใต้ฐานทัพเรือของเบอร์เกนในสตอกโฮล์ม เรานั่งอยู่กับเจ้าหน้าที่และพวกเขาก็เล่นเสียงที่พบให้เราฟัง ซึ่งมันนับเป็นครั้งแรกเลยที่พลเรือนได้ยินเสียงนี้”
“เสียงที่ออกมามันเหมือนมีคนกำลังทอดเบคอนไม่มีผิด มันราวกับฟองอากาศขนาดเล็กที่ถูกปล่อยใต้น้ำเลย”
หลังจากวันนั้นมา คุณ Magnus และทีมงานก็เริ่มที่จะตามหาที่มาของเสียงดังกล่าวทันที โดยพวกเขาตัดตัวเลือกที่น่าจะเป็นจากสิ่งที่สวีเดนเคยกลัวไปทีละข้อ
จนกระทั่งพบว่าเสียงที่พวกเขาได้ยินนั้น แท้จริงแล้วมาจากอะไรที่ไม่ได้ว่ากลัวเลยอย่าง “ตดของปลา” ก็เท่านั้น
“ปรากฏว่าปลาเฮอริ่งมีอวัยวะที่เรียกว่า ‘Swim bladder’ (บ้านเรารู้จักกันในชื่อ ‘กระเพาะปลา’ แต่จริงๆ แล้วมันใกล้เคียงกับถุงลมมากกว่า) และเจ้าอวัยวะที่ว่านี้ มันก็เชื่อมต่อกับท่อทวารหนักของปลาพอดีเสียด้วย”
“นี่เป็นการเชื่อมต่อที่เป็นเอกลักษณ์มาก ซึ่งพบได้เฉพาะในเฮอริ่งเท่านั้น ดังนั้นปลาชนิดนี้จึงสามารถบีบถุงลมของตัวเอง ทำให้มันปล่อยฟองอากาศออกมาจำนวนเล็กน้อยผ่านทางช่องทวารหนักออกมาได้”
และด้วยความที่ปลาเฮอริ่งมักจะอยู่กันเป็นฝูง การตดของพวกมันจึงมากพอที่จะถูกตรวจสอบได้โดยเทคโนโลยีตรวจจับของมนุษย์ และในกรณีนี้ มันก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเรือดำน้ำนั่นเอง
เพื่อพิสูจน์แนวคิดของเขาคุณ Magnus และทีมงานก็ถึงกับต้องทดลองเอาแฮร์ริ่งจากร้านค้ามาอัดความดันทำให้เกิดเสียง ก่อนจะเอาเสียงที่ได้ไปให้เจ้าหน้าที่กองทัพเรือเทียบกับเสียงที่พวกเขามีเลย
และมันก็แน่นอนว่าผลที่ออกมานั้น ก็ตรงกับแป๊ะกับเสียง “เรือดำน้ำ” ที่กองทัพมีเลยด้วย
คุณ Magnus Wahlberg ในงาน TEDx Talk ปี 2012
ดังนั้น ทางกองทัพจึงสามารถสรุปข่าวดีในที่สุดว่าประเทศสวีเดนนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ถูกรัสเซียกดดันแต่อย่างไร
แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องยอมรับข่าวร้ายที่ว่า พวกเขานั้นใช้เวลากว่า 10 ปี ไปกับการไล่ตาม “เสียงตดปลา” ไปด้วย และการกระทำนี้ก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์สุดแปลกหน้าหนึ่งของประเทศไปอีกแสนนานเลย
ที่มา iflscience, rbth และ maritimeherald
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น