พวกเราทราบกันดีว่าโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานชนิดที่ 2 พบได้บ่อยๆ ในคนไทยนั้น ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย และอาจจะนำไปสู่เรื่องเลวร้ายอย่างโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดในสมองได้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าโรคที่กล่าวมานี้ แท้จริงแล้วอาจจะมีความอันตรายมากกว่าที่เราเคยคิดกันไว้เสียอีก เพราะเมื่อล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดได้ออกมาเปิดเผยว่า
โรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานชนิดที่ 2 แท้จริงแล้ว อาจสามารถ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างสมอง ทำให้การรับรู้และทำความเข้าใจช้าลง ซึ่งส่งผลต่อจิตใจของเราในรูปแบบที่ละเอียดอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อได้เลยด้วย
“เมื่อความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ความเร็วในการคิดและความจำจะแย่ลง” คุณ Michele Veldsman ผู้เขียนร่วม ของงานวิจัยกล่าว

อ้างอิงจากงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา
นักวิทยาศาสตร์พบกับความเป็นไปได้ของผลข้างเคียงอันแสนน่ากลัวนี้ จากการตรวจสอบผลตรวจ MRI สมอง โดยเฉพาะที่เนื้อสมองสีเทา และสมองเนื้อสีขาว ของอาสาสมัคร 22,000 ราย
พวกเขาพบว่าในบรรดาอาสาสมัครที่มีอายุอยู่ในช่วง 44-70 ปี การมีความดันโลหิตที่สูงขึ้น จะมีความเชื่อมโยงกับการแสดงประสิทธิภาพการรับรู้ที่ลดลงของสมอง
ในขณะที่ผู้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เองแม้จะมีเพียง 5% ของอาสาสมัครทั้งหมด แต่ก็แสดงผลออกมาในรูปแบบคล้ายๆ กัน

แน่นอนว่าการการรับรู้ที่ลดลง ซึ่งนักวิจัยพบนั้น รวมๆ แล้วถือว่าส่งผลกระทบที่เล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับโรคโดยตรงอย่าง อาการสมองเสื่อม โดยอาการที่เกิดขึ้นก็เพียงแค่อาสาสมัครคิดได้ช้าลงเล็กน้อยเท่านั้น
“การเปลี่ยนแปลงนั้นละเอียดอ่อนและอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสังเกตเห็นได้ในชีวิตประจำวัน” คุณ Michele เสริม
อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงนี้ ในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์มันก็ถือว่าน่าจับตามองอยู่ดี
นั่นเพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทีความดันโลหิตสูงอาจเปลี่ยนแปลงสมองของเราได้ และอาการดังกล่าวก็ถือว่าเป็นอาการที่พบได้บ่อยๆ เสียด้วย
ดังนั้นแล้ว ในปัจจุบันทีมนักวิทยาศาสตร์จึงกำลังพยายามศึกษาต่อยอดสิ่งที่พวกเขาพบเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากอาการที่พวกเขาพบ
ส่วนในปัจจุบัน วิธีการที่เราจะหลีกเลี่ยงจากอาการที่กล่าวมานี้ ก็คงจะไม่พ้นการดูแลสุขภาพตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานชนิดที่ 2 นั่นเอง
ที่มา sciencealert และ nature
Advertisement