เคยสังเกตกันบ้างไหมเอ่ยว่าคำในภาษาอังกฤษหลายๆ คำมักจะมีคำว่า French (ชาวฝรั่งเศส) เข้าไปรวมอยู่ด้วย รวมไปถึงวิธีการจูบแบบดูดดื่มอย่างคำว่า French Kiss
สงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมวิธีการจูบแบบเปิดปากนั้นถึงเรียกว่า French Kiss มันมีจุดกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสหรือเปล่านะ? ถ้าใช่ แล้วทำไมถึงกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้ล่ะ?
มีการอ้างอิงว่าวิธีการจูบแบบใช้ปากและใช้ลิ้นนั้น มีต้นกำเนิดมานานนับพันปีในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันไป แต่การใช้คำว่า French นั้นเพิ่งเริ่มใช้เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง
และคำอธิบายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เกิดจากทหารอเมริกัน และทหารอังกฤษที่รบในประเทศฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทหารเหล่านั้นได้สานสัมพันธ์ และได้เรียนรู้วิธีการจูบจากสาวฝรั่งเศส จนเมื่อพวกเขากลับบ้านหลังจบสงครามราวปี 1945 ก็ได้นำวิธีการจูบแบบฝรั่งเศสมาเผยแพร่ให้กับเพื่อนๆ จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
อีกความเชื่อหนึ่งคือคำศัพท์นี้เกิดขึ้นจากความโรแมนติกของชาวฝรั่งเศส เนื่องจากชาวฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักกันในเรื่องของการชอบผจญภัย การหลงใหลเรื่องความสัมพันธ์ และเพศสัมพันธ์
อีกทั้งกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสยังขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งความรัก” (City of Love) จึงเป็นไปได้ว่า French Kiss อาจเกิดเพราะเหตุผลนี้ก็ได้
ทั้งนี้ อ้างอิงจากหนังสือ “The Science of Kissing: What Our Lips Are Telling Us” เขียนโดย Sheril Kirshenbaum
ได้กล่าวถึงที่มาของ French Kiss ไว้ว่า “ที่มาอย่างแม่นยำของคำนี้นั้นยังไม่เป็นที่ระบุแน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่า French Kiss ถูกนำมาใช้จากชาวอเมริกัน ที่หลงใหลการจูบแบบเปิดปากของสาวฝรั่งเศส”
จากเหตุผลดังกล่าวได้สนับสนุนคำพูดที่ได้รับความนิยมโดย Vaughn Bryant นักมานุษยวิทยา เขาเคยกล่าวไว้ว่า “อยู่ประเทศฝรั่งเศสก็ต้องโดนจูบโดยสาวฝรั่งเศส” (While in France get the girls to kiss you)
ซึ่งต่อมาได้ถูกตัดเป็นประโยคสั้นๆ ว่า “จูบแบบฝรั่งเศส” (get a French kiss) นั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานที่น่าสนใจจาก Google Books Ngram ที่ได้สร้างกราฟ ระบุถึงการอ้างอิงคำว่า French Kiss ในหนังสือวรรณกรรม โดยพบว่ามีการใช้คำนี้เพิ่มขึ้นหลังจากปี 1940 เป็นต้นมา
หลักฐานชิ้นนี้จึงสามารถสนับสนุนทฤษฎีทหารอเมริกัน และอังกฤษกลับมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เป็นอย่างดี
กราฟจาก Google Books Ngram
ทั้งนี้ เชื่อว่าการจูบแบบ French Kiss นั้นได้รับความนิยมอย่างมาก จนกลายเป็นเรื่องปกติในสหรัฐอเมริกา ที่ผู้คนมักจะพูดถึงการจูบแบบเปิดปากและใช้ลิ้นด้วยคำศัพท์เช่นนี้
ด้วยเหตุนี้เอง คำว่า French Kiss จึงเป็นที่นิยม และถูกใช้อย่างแพร่หลายไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
เรียบเรียงโดย #เหมียวเมษา
ที่มา: huffpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น