ดราม่า “ประท้วงฮ่องกง” กับคลิปจับกุมเด็กหญิง 12 ขวบ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อวานนี้ที่ฮ่องกง มีการรวมตัวประท้วงอีกครั้ง เนื่องจากวันที่ 6 กันยายน 2020 แต่เดิมนั้น เป็นกำหนดจัดการเลือกตั้ง แต่กลับไม่ได้จัดขึ้นตามกำหนด

เนื่องจากรัฐบาลได้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปอีก 1 ปี โดยระบุว่าติดขัดจากปัญหาโควิด-19 ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงการรวมตัวของคนหมู่มาก ทำให้หลายๆ คนไม่พอใจ และใช้โอกาสเป็นวันในการรวมตัวประท้วง

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมดังกล่าว มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ชุมนุม 289 คน ในความผิดฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง และทำให้เกิดความวุ่นวาย

แต่สิ่งหนึ่งที่กลายมาเป็นประเด็นดราม่าที่สุด ก็คือคลิปของการจับกุมเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ด้วยท่าทีที่หลายฝ่ายมองว่าใช้ความรุนแรงเกินเหตุ

เราลองมาดูคลิปกันก่อน…

Watch how the Hong Kong police treated this frightened girl who was only walking on a shopping street.#FreeHongKong#StandWithHongKong pic.twitter.com/8rwoRoYRqd

— Nathan Law 羅冠聰 (@nathanlawkc) September 6, 2020

อีกคลิปหนึ่ง

https://www.facebook.com/thcandy/posts/3440226192665374

ถ้าดูจากในคลิปเฉยๆ จะเห็นว่าเด็กหญิงมีท่าทีตื่นกลัว แล้วพยายามจะวิ่งหนี แต่ก็โดนเจ้าหน้าที่เข้าชาร์จ พร้อมกับกดให้นอนลงกับพื้นเพื่อจับกุมตัว

แต่ก็มีเสียงวิจารณ์มาจากหลายฝ่าย.. เริ่มจากฝ่ายที่มองว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รุนแรงเกินไปกว่าเหตุ

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายก็โต้แย้งว่าเด็กหญิงทำผิดกฎการชุมนุม ทำให้เธอต้องถูกจับกุมตัวตามกฎหมาย

คำโต้ตอบจากผู้ปกครองเด็ก..

เมื่อเธอถูกจับกุม มีการรายงานข่าวจากทางผู้ปกครองของเด็กหญิงทันที โดยระบุว่าเธอกับพี่ชาย ที่ออกมาด้วยกัน มีบ้านอยู่ในละแวกนั้นอยู่แล้ว และเพียงแค่ออกมาซื้อของ ไม่ได้มาร่วมชุมนุมแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเธอก็ได้รับการปล่อยตัว แต่ได้ใบสั่งในเรื่องของการทำผิดกฎหมายเข้าร่วมชุมนุมในช่วงโควิด-19 ซึ่งก็เป็นเพียงการจ่ายค่าปรับเท่านั้น

แต่เมื่อมีคำชี้แจงออกมาแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนการชุมนุมนั้นเดือดดาลเข้าไปใหญ่ ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมคนผิดตัว หรือใช้ความรุนแรงกับเด็กน้อยก็มีท่าทีวิ่งหนีอยู่แล้ว ไม่ได้จะก่อความรุนแรงอะไร

แต่ทางอีกฝั่ง ก็มาโต้แย้งต่อว่าเด็กน้อยนั้นอาจจะมีเจตนามาร่วมชุมนุม เพราะม็อบมีการแจ้งเวลาอย่างชัดเจน เหตุใดจึงไม่ออกมาซื้อของก่อนม็อบ หรือรอม็อบเลิกไปแล้ว!?

ซึ่งแน่นอนว่า ก็ยังคงกลายเป็นข้อถกเถียงไม่จบไม่สิ้นนั่นเองครับ..

เรียบเรียง #ประธานเหมียว

ที่มา: globalnews, sbs