CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ภรรยาคิดการใหญ่ไปดักสามีถึงออฟฟิศ ลักพาตัวโดยไม่บอกจุดหมาย แต่ทำด้วยความหวังดีนะ

หากพูดถึงกรณีของการลักพาตัวก็คือการก่ออาชญากรรมร้ายแรง และมักจะเกิดเรื่องไม่ดีตามมาขึ้นอยู่เสมอๆ แต่ถ้าหากลองลักพาตัวไปในอีกแง่หนึ่งบ้างล่ะ… ที่คนใกล้ตัวเป็นคนลงมือ แถมไม่ยอมบอกด้วยว่าจะพาไปไหนอีก นี่มันอะไรกันเนี่ย?

 

ภาพประกอบเนื้อหา

 

เรื่องของเรื่องก็คือภรรยาชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ได้เปิดเผยเรื่องราวการจัดฉากลักพาตัวสามีของเธอเอง หลังจากที่สังเกตเห็นว่าเขาทำงานหนักมาก หนักเกินไปจนเริ่มเป็นห่วง และแทบไม่มีเวลาให้เลยเพราะต้องทำงานล่วงเวลาตลอด

@tentyo_9130 จึงได้เริ่มปฏิบัติการลักพาตัวสามี โดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น ว่าเธอจะพาเขาไปไหนหรือจะพาไปทำอะไร…

 

 

“วันเสาร์ที่แล้ว ฉันตัดสินใจลักพาตัวสามีของฉันค่ะ เขาต้องทำงานล่วงเวลาในคืนนั้น พอถึง 9 โมงเช้าของวันถัดไปฉันจึงยืนรอเขาที่หน้าออฟฟิศ รอคอยให้เขาออกมา ‘อะไรเนี่ย? คุณมาทำอะไรที่นี่?’ เขาถามด้วยความสงสัย ฉันบอกเขาไปว่า ‘ฉันมาลักพักตัวคุณค่ะ’”

 

ฝ่ายสามีก็งงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแบบรวดเร็วมาก

ภรรยาก็ไม่รีรอลากตัวสามีไปยังสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด พร้อมบอกว่า ‘เรามีรถไฟชินคันเซ็นที่ต้องขึ้นนะ ไปกันเถอะ’

พอไปถึงสถานีเธอจึงยื่นตั๋วขึ้นรถไฟในสภาพคว่ำหน้า เพื่อไม่ให้เขารู้ว่าปลายทางจะไปที่ไหน พร้อมกับดักคอสามีว่า ‘ห้ามพลิกหน้าตั๋วดูและห้ามเปิดดูโลเคชั่น’

 

 

สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สามีคอยทำตามคำสั่งภรรยาในสภาพที่ยังใส่ชุดทำงานอยู่ เขาก็แอบมองไปที่กระเป๋าเดินทางและถามภรรยาว่า ‘มีชุดให้เปลี่ยนรึเปล่า’ ภรรยาสวนกลับทันที ‘เงียบเถอะน่า’

แม้ว่าจะสามีจะพอทราบว่าปลายทางของรถไฟขบวนที่ขึ้นกำลังจะไปที่ไหน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าปลายทางที่แท้จริงจะจบที่ใด ภรรยาที่กำลังปฏิบัติภารกิจลักพาตัวก็ไม่ยอมปริปากแม้แต่คำเดียว พร้อมกับหัวเราะด้วยความอำมหิตท่ามกลางความอ่อนเพลียและความสับสนของสามี

 

ภาพประกอบเนื้อหา

 

เมื่อได้ที่นั่งแล้วเธอจึงยื่นผ้าปิดตาและชุดปิดหูให้สามี ‘นอนซะสิ’ เธอสั่งให้เขาทำตาม จนกระทั่งรถไฟเดินทางมาถึงสถานีมิชิม่า เปลี่ยนสายรถไฟเป็นสายท้องถิ่นอีกรอบ สามีก็เริ่มรู้ทีละเล็กละน้อยว่านี่เรามาไกลถึงชิซุโอะกะเลยเหรอเนี่ย?

 

 

‘เราจะลงที่สถานีปลายทางนะ’ สามีถามต่อ ‘โอเค แล้วจะนานแค่ไหนล่ะ’

เธอตอบว่า ‘ฉันก็สงสัยอยู่ เพราะไม่เคยมาที่นี่เหมือนกัน’

‘แล้วพอไปถึงสถานีปลายทาง คือสุดทางแล้วจริงๆ ใช่ป่ะ?’

ภรรยาตอบกลับ ‘ยัง เราจะขึ้นรถบัสไปกันต่ออีก’ ห๊ะะะะ!?

 

ภาพประกอบเนื้อหา

 

มาถึงจุดนี้ทำให้สามีของเธอรู้สึกตกใจอีกรอบ ถึงกับลั่นถามว่าจะมีความเจริญอยู่แถวนั้นมั้ย มีคลื่นโทรศัพท์รึเปล่า? ก็บอกไปก่อนแล้วว่าไม่เคยไป เพราะฉะนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่อย่างน้อยขอให้รู้ว่ากำลังจะไปไหนได้มั้ย? สามีจะได้กูเกิ้ลหาเพื่อความมั่นใจ ภรรยายืนยันคำขาด ‘ไม่’

 

 

ช่วงที่ขึ้นรถบัสผ่านเส้นทางไปเรื่อยๆ ขึ้นเขาไต่ขอบเหวทางคดเคี้ยวนานหลายชั่วโมง จดในที่สุดแล้วสามีก็เริ่มมองออกไปนอกหน้าต่างได้เห็นปลายทางที่แท้จริงเสียที…

ปลายทางของการลักพาตัวสามีในครั้งนี้ คือการที่ภรรยาตั้งใจพาสามีมาพักผ่อนที่รีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนต่างจังหวัดนั่นเอง

“ทริปนี้พามาพักผ่อนและผ่อนคลาย ลงจากรถบัสเมื่อไหร่ จะตรงไปออนเซนเลยนะ” สามีถึงกับอึ้ง… “ว้าววว บ่อน้ำพุร้อน นี่มันอะไรกัน บ่อน้ำพุร้อนเหรอ เยี่ยมไปเลย”

 

 

คุณภรรยาจัดแจงจองห้องพักพร้อมบ่อแช่น้ำร้อนแบบส่วนตัวไว้แล้ว เมื่อถามสามีว่ารู้ยังว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เขาก็ตอบว่า “ยัง แต่กำลังพยายามคิดตามอยู่ แต่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน”

 

 

หลังจากลงไปแช่น้ำร้อนซักพักใหญ่ ด้วยความเหนื่อยล้าของสามีที่ยังไม่ได้นอนจากเสร็จงานกะดึกก็เลยของีบไปก่อน พอตื่นขึ้นมาภรรยาก็ย้ำอีกครั้งว่ามาอยู่กันที่บ่อน้ำพุร้อนแล้วนะ นั่นก็เป็นครั้งแรกที่สามีได้สติพร้อมกับความรู้สึกสุขใจแบบบอกไม่ถูก

“และนั่นจึงเป็นช่วงที่ฉันอยากบอกว่าแผนการลักพาตัวสามีของฉัน สำเร็จแล้วค่ะ”

 

 

ที่มา: @tentyo_9130, jin115


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น