ตั้งแต่ในอดีตมาบางครั้งเวลาที่เด็กสีผมไม่เหมือนผู้เป็นพ่อ ชาวตะวันตกก็มักจะมีมุกหยอกล้อกันเล่นๆ อย่าง “คนส่งของ” ผมสีเดียวกับลูกหรือไม่ ซึ่งคนส่งของในที่นี้ก็จะเปลี่ยนไปแล้วแต่อาชีพที่เห็นบ่อยๆ ในยุคนั้นๆ
ในปัจจุบันคนส่งของที่ว่าก็อาจจะเป็นคนส่งพิซซ่า ในขณะที่ในยุค 50 ก็อาจจะเป็นคนส่งนม แต่ถ้าย้อนไปในยุค 1890 ช่วงเวลาที่ตู้เย็นยังไม่มีบนโลก ไม่ว่าใครก็คงบอกว่าคนส่งของที่ว่านั้น คือ “Iceman” หรือคนส่งน้ำแข็งเป็นแน่
อาชีพคนส่งน้ำแข็งสำหรับที่สหรัฐอเมริกา เริ่มเป็นที่โด่งดังขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อที่ประชาชนเริ่มขยายเมืองไปอาศัยในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งผลิตอาหารมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาความสดของอาหาร กล่องน้ำแข็งจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทเป็นอย่างมาก และก็แน่นอนว่ากล่องน้ำแข็งเหล่านี้ก็จำเป็นต้องอาศัยน้ำแข็งในการทำงาน
ในอดีตที่มนุษย์ยังคงไม่สามารถผลิตน้ำแข็งขึ้นมาเองได้ เมืองใหญ่ๆ จะเก็บน้ำแข็งมาจากแหล่งน้ำอย่างแม่น้ำฮัดสันหรือทะเลสาบร็อกแลนด์
โดยอาศัยแรงงานของมนุษย์เสี่ยงชีวิตขึ้นไปยืนบนธารน้ำแข็งและใช้เลื่อยในการตัดน้ำแข็งเป็นก้อนๆ ในฤดูหนาว ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในโรงเก็บความเย็น
น้ำแข็งธรรมชาติส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน และมีจุดขายที่ได้กำไรมากที่สุดเมื่อฤดูร้อนมาถึง ซึ่งในเวลานั้น ประชาชน ร้านค้า และหน่วยงานอื่นๆ จะแห่กันเข้ามาสั่งซื้อน้ำแข็ง จนในหนึ่งปีแค่ที่แมนฮัตตันและบรูคลินคนเราก็ใช้น้ำแข็งมากถึง 1.3 ล้านตันเลย
ความต้องการน้ำแข็งมหาศาลเหล่านี้ ทำให้บริษัทน้ำแข็งส่วนใหญ่มีการว่าจ้างคนส่งน้ำแข็งมาเพื่อส่งของให้กับลูกค้าโดยตรง แถมในหลายๆ ครั้งคนส่งน้ำแข็งยังต้องเข้าไปถึงในบ้านเพื่อเจาะน้ำแข็งให้พอดีกับขนาดของกล่องน้ำแข็งในแต่ละบ้านด้วย
ลักษณะการทำงานในยุคภรรยาอยู่เฝ้าบ้านและสามีออกไปทำงาน ทำให้งานอย่างคนส่งน้ำแข็งมักกลายเป็นผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกๆ ในกรณีที่สามีสงสัยว่าภรรยามีชู้
งานอย่างคนส่งน้ำแข็งค่อยๆ เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์ทีละน้อยจากการพัฒนาของงานอุตสาหกรรม ที่ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งระบบทำความเย็นอย่างตู้เย็นเท่านั้น แต่ยังทำให้แหล่งน้ำสกปรกจนบริษัทน้ำแข็งแบบดั้งเดิมไม่อาจทำงานได้อีกต่อไป
ถึงอย่างนั้นก็ตามงานคนส่งน้ำแข็งเองก็ใช่ว่าจะหายไปโดยสมบูรณ์แต่อย่างไร เพราะแม้การทำงานจะต่างกันอยู่บ้าง แต่ในปัจจุบัน ตามโรงน้ำแข็งเราก็ยังสามารถพบกับคนที่รับหน้าที่ส่งน้ำแข็งไปส่งตามที่ต่างๆ ได้อยู่ดี
ที่มา atlasobscura
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น