ในขณะที่มนุษย์เรากำลังต่อสู้กับโรคโควิด-19 ด้วยวิธีการต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ในร่างกายของผู้ที่ติดเชื้อไปแล้วหลายๆ คนเอง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายพวกเขาก็กำลังต่อสู้กับไวรัสตัวนี้ในรูปแบบของมันเช่นกัน
และเมื่อวันอังคารที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมานี้เอง นักวิทยาศาสตร์จากออสเตรเลียก็เพิ่งจะระบุได้เลยว่า ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรานั้นมีการต่อสู้กับไวรัสตัวนี้ “อย่างไร” บ้าง
อ้างอิงจากในงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันปีเตอร์โดเฮอร์ที ได้ทำการตรวจสอบตัวอย่างโลหิตในช่วงเวลาต่างๆ กัน 4 ช่วงเวลา จากผู้ป่วยโรคโควิด-19 ระยะกลาง เพศหญิงวัย 40 ปีคนหนึ่ง ที่หายจากโรคร้ายนี้ได้หลังรับการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 14 วัน
โดยพวกเขาพบว่า ราวๆ 3 วันก่อนที่ร่างกายของหญิงคนนี้จะเริ่มดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของเธอจะมีการปล่อยเซลล์ภูมิคุ้มกัน 4 ชนิด ได้แก่ Cd4+ T-cells, CD8+ T-cells, อิมมูโนโกลบูลินเอ็ม และแอนติบอดี IgG ออกมาเป็นปริมาณมากกว่าปกติ ก่อนที่เซลล์เหล่านี้จะเดินทางไปตามระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายเธออีกที
ภาพจำลองของ T-cells ในร่างกายมนุษย์
ลักษณะการใช้งานเซลล์ภูมิคุ้มกันในรูปแบบนี้ เป็นแบบเดียวกับที่พบได้บ่อยๆ ในตอนที่ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดากำลังฟื้นตัว ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆ
เพราะอ้างอิงจากคุณ Katherine Kedzierska หนึ่งในทีมวิจัย “การค้นพบนี้ ถือเป็นครั้งแรกเลยที่เราเข้าใจจริงๆ ว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราต่อสู้กับ โคโรนาไวรัสได้อย่างไร”
สภาพปอดของผู้ป่วย ก่อนและหลังการหายจากโควิด-19
นี่อาจจะเป็นงานวิจัยที่ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลายๆ คน เพราะเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าระบบภูมิคุ้มกันของเธอต่อสู้กับไวรัสได้
อย่างไรก็ตามการที่เราทราบว่าระบบภูมิคุ้มกันมีการทำงานต่อไวรัสอย่างจริงจังเมื่อไหร่เช่นนี้ ก็จะช่วยให้เราคาดการณ์กระบวนการและช่วงเวลาที่ร่างกายของผู้ป่วยจะหายจากการติดเชื้อได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซึ่งความเข้าใจในจุดนี้เองก็อาจจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาวัคซีนและระบบการรักษาที่มีอยู่ให้ดียิ่งไปกว่าเดิมอีกด้วย
ดังนั้น ในปัจจุบันทีมวิจัยของคุณ Katherine จึงได้ตัดสินใจว่าขั้นตอนต่อไปของงานวิจัยของพวกเขาจะเป็นการหาความแตกต่างในด้านระบบภูมิคุ้มกันระหว่างคนที่ตายไปเพราะไวรัสกับคนที่รอดชีวิตมาได้ต่อไป
เพราะหากเราสามารถหาข้อแตกต่างในจุดนี้ได้เราก็จะสามารถค้นพบวิธีการป้องกันความตายจากโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปเลย
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น