ในช่วงเวลานี้ของปีที่ “สวนซากุระ ฟูรูซาโตะ” ในจังหวัดชิบะของประเทศญี่ปุ่น ตามปกติแล้วจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกทิวลิปขึ้น ซึ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ และสร้างภาพความงดงามของดอกไม้และกังหันลมให้เราได้ชมปีแล้วปีเล่า
แต่อย่างที่พวกเราทราบกันว่าในปี 2020 นี้เอง ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้งานเทศกาลต่างๆ ต้องถูกล้มเลิก สวนซากุระ ฟูรูซาโตะเองก็ได้ทำการยกเลิกเทศกาลชมดอกทิวลิปไปเช่นกัน
ปัญหาสำคัญของที่นี่ คือแม้ว่าพวกเขาจะยกเลิกเทศกาลชมดอกทิวลิป และปิดสวนไปแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าประชาชนหลายๆ คนในประเทศเองจะยังคงเดินทางไปที่สวนซากุระ ฟูรูซาโตะ เพื่อการชมดอกไม้กันอยู่ดี จนถึงขนาดที่ในวันที่ 11 เมษายน เวลา 2:00 pm ตามเวลาในท้องถิ่น ที่สวนมีนักท่องเที่ยวอยู่มากถึง 400 คนเลย
บรรยากาศสวนซากุระ ฟูรูซาโตะเมื่อปี 2016
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องมาก แม่ด้วยลักษณะของสวนที่ตั้งอยู่ในที่เปิด การที่จะล้อมรั้วปิดไม่ให้มีคนเข้าไปในสวนได้เองก็ถือว่าเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อที่จะแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจอมซน เมื่อวันที่ 14-15 เมษายน ที่ผ่านมานี้เอง ทางสวนซากุระ ฟูรูซาโตะจึงได้ตัดสินใจลงไม้หนักเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการตัดดอกไม้กว่า 800,000 ต้น จากกว่า 100 สายพันธุ์ในสวนทิ้งไปเสียเลย
ทางเมืองซากุระออกมากล่าวเกี่ยวกับการตัดสินใจในครั้งนี้ว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นการกระทำที่จำเป็น เพื่อบังคับไม่ให้คนเข้ามาเที่ยว เพราะตราบใดที่ดอกไม้พวกนี้ยังอยู่ ไม่ว่าจะป้องกันอย่างไรสุดท้ายนักท่องเที่ยวก็คงจะหาวิธีเข้ามาในสวนเป็นแน่
นับว่าเป็นโชคดีของทางเจ้าหน้าที่มาก ที่ดูเหมือนการตัดสินใจของพวกเขาจะได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีจากคนในท้องที่ แม้ว่าจะมีผู้คนบางส่วนรู้สึกเสียดายแทนเหล่าผู้ดูแลดอกไม้ดังกล่าว และตัวดอกไม้เองที่ต้องมาสละตัวเองเพื่อคนบางกลุ่มที่ไม่รู้จักยับยั้งช่างใจก็ตาม
และแม้ว่าดอกไม้ที่เป็นจุดขายสำคัญจะหายไปแล้วก็ตาม แต่ผู้คนที่เห็นข่าวนี้เองก็ล้วนแต่จะบอกว่าในตอนที่ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จบลง พวกเขาจะเข้าไปเยี่ยมชมที่แห่งนี้อีกครั้ง และสนับสนุนสวนซากุระ ฟูรูซาโตะ อย่างเต็มที่ต่อไปแน่นอน
ที่มา soranews24 และ jin115
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น