ชาวญี่ปุ่นไม่ปลื้ม โพสต์ตำหนิแฟนรักบี้ต่างชาติ หลังเล่นเวฟบนรถไฟ จนคนอื่นเดือดร้อน

ถ้าพูดถึงกีฬาที่คนญี่ปุ่นนิยมเล่นกันแล้วล่ะก็ ต้องเป็นเบสบอลและตามมาด้วยฟุตบอล จะเห็นได้บ่อยๆ ตามการ์ตูนหรือซีรีส์ และข่าวคราวการกีฬาจากสื่อต่างๆ

แต่จริงๆ แล้วในญี่ปุ่น ความนิยมของกีฬา “รักบี้” นั้นก็ไม่ได้น้อยหน้ากีฬาดังกล่าวเลยทีเดียว ล่าสุดนี้ญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขัน “Rugby World Cup 2019”

ซึ่งก็มีแฟนๆ รักบี้ชาวญี่ปุ่นบางส่วน ได้ไปชมการแข่งขันดังกล่าวถึงที่ พร้อมกับได้นั่งรถไฟขบวนเดียวกันกับแฟนๆ ทีมโปรดของเขาในขากลับเสียด้วย แต่กลับไม่ปลื้มกับการกระทำบนรถไฟของแฟนกีฬาทีมโปรดเท่าไหร่นัก

เร็วๆ นี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @nontage ผู้ที่อธิบายโปรไฟล์ของตัวเองว่า “ชาวญี่ปุ่นผู้หลงใหลฝรั่งเศส” ได้โพสต์วิดีโอขณะขึ้นรถไฟขากลับ หลังจากไปชมทีมรักบี้ฝรั่งเศสชนะอาร์เจนตินาไป 23-21 แต้ม

อย่างไรก็ตาม การกระทำของแฟนรักบี้ทีมดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกไม่โอเค เพราะพวกเขาเล่นเวฟกันในขบวนโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้างเลยสักนิด

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรถไฟสายเคย์โอขณะนี้ ???

現在の京王線車内です??? pic.twitter.com/nT0GK0LkHJ

— のん Marianne Renoir (@nontage) September 21, 2019

ในตอนแรกผู้โพสต์เห็นว่าเป็นการละเล่นเอาสนุกเอาฮาและยังไม่คิดมากอะไร แต่ไม่นานนักการเล่นของพวกเขาก็สร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงกล้องก็ถูกเท้าของพวกเขาเตะหล่นด้วย หลายๆ คนจึงรีบย้ายขบวนรถไฟหนีกันอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เธอโพสต์เรื่องราวดังกล่าวไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความีคิดเห็นอย่างมากมาย

“มันแย่มากเลยนะเมื่อได้เห็นชาวต่างชาติไม่เคารพวัฒนธรรมของประเทศที่เขาไปท่องเที่ยว”

“แล้วแบบนี้ ช่วงการแข่งโอลิมปิก จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างวะเนี่ย”

“ไม่ว่าพวกนายจะมาจากประเทศอะไร ก็ไม่สมควรทำแบบนี้บนรถไฟ ถ้าจะทำก็ไปทำในสวนสาธารณะหรือไม่ก็ที่อื่นที่จะไม่รบกวนชาวบ้านเถอะ”

รวมถึงก็มีชาวเน็ตญี่ปุ่นอีกคนช่วยเสริมการกระทำยอดแย่ของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ขว้างปาธงเล่นข้างถนน

旗ぶん投げてる外人もいる?‍♂️ pic.twitter.com/p2l4eNjXRE

— ??????????? (@superblackneet) September 21, 2019

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่กลัวชาวเน็ตหลายคนจะคิดเอาเหมารวม @nontage จึงได้โพสต์ว่าไม่ใช่ทุกคนในชาตินั้นๆ ที่จะแสดงออกแบบนี้

“ฉันอยากจะบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงชาวฝรั่งเศสทุกคน มีชาวฝรั่งเศสคนอื่นๆ ที่อยู่บนขบวนที่บอกว่าเราต้องย้ายไปขบวนอื่นอยู่เช่นกัน

มันก็เหมือนกับฮาโลวีนนั่นแหละ ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นทุกคนที่จะแต่งชุดผีในวันนั้น

ผู้คนไม่ได้เหมือนกันซะหมด และพวกเขาเป็นแค่ส่วนหนึ่งในสังคมเท่านั้น”