เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกนำมาพูดถึงในโลกออนไลน์ผ่าน #JungInImSorry เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหญิงอายุเพียง 16 เดือนจากประเทศเกาหลีใต้ ถูกละเลยไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ที่เกี่ยวข้องจนนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด
ภาพของน้อง Jung In ก่อนถูกรับอุปถัมภ์
เรื่องราวของน้อง Jung In เด็กทารกอายุ 16 เดือนได้รับการอุปถัมภ์โดยนาง Jang และนาย Ahn ก็เพื่อหวังชื่อเสียงจากการรับเลี้ยงเด็ก
จนสุดท้ายมันนำไปสู่การทำร้ายร่างกายเด็กจนกระทั่งถึงการเสียชีวิตของน้องในวันที่ 13 ตุลาคม 2020
รายการสารคดีเกาหลีใต้ Unanswered Questions ออกอากาศตอนล่าสุดเปิดเผยเรื่องราวอันน่าหดหูที่น้อง Jung In ต้องเจอตลอดช่วงระยะเวลา 271 วันที่ถูกรับอุปถัมภ์ไปเลี้ยงโดยครอบครัวนี้
ศาสตราจารย์ Namkoong Ihn จากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล Ewha Mokdong ระบุว่ตอนที่รับน้องเข้าแอดมิทก่อนเสียชีวิต ผลตรวจร่างกายน้องเผยให้เห็นว่าเธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน
จนกระทั่งในวันที่ 13 ตุลาคม 2020 นาง Jang และนาย Ahn ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเขตยังช็อน กรุงโซล
It breaks my heart knowing that a poor young soul has left us. Jungin deserved the love and care of a true family. Jungin will forever be in our prayers and our hearts 💜🤍#Jungin #junginimsorry #SorryJungin #정인아_미안해https://t.co/DPimMepSV3
— 💜 Darian⁷ 1+1+2+2+1=7 (@darianzuleth) January 4, 2021
ปรากฎตัวครั้งแรกในรายการ One Average Family
มันเริ่มต้นมาจากการที่พ่อแม่อุปถัมภ์พาลูกสาววัย 4 ขวบปรากฎตัวในรายการเรียลลิตี้ One Average Family ทั้งสี่คนมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นครอบครัวอบอุ่นน่ารักพร้อมกับน้อง Jung In
“เราอยากบอกว่าไม่ได้มีเพียงแต่คนดังที่จะรับอุปถัมภ์เด็กมาเลี้ยงได้ คนธรรมดาอย่างเราก็ทำได้เหมือนกัน ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายอะไร หนำซ้ำยังเป็นเรื่องที่ควรยินดีอีกด้วย”
เบาะแสแรกกับการแจ้งความที่ถูกละเลย ไม่ใช่ครั้งเดียวแต่มากถึง 3 ครั้ง
ครูพี่เลี้ยงในศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นผู้แจ้งเบาะแส โดยตั้งข้อสงสัยว่าน้องถูกทำร้ายร่างกายครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม 2020
หลังจากที่พบว่ามีรอยฟกช้ำผิดปกติบริเวณต้นขาของน้อง Jung In แต่โชคร้ายที่ตำรวจไม่สามารถตั้งข้อหาและพบการกระทำความผิดของพ่อแม่อุปถัมภ์เลย
“เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าไม่น่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายเด็ก เว้นเสียแต่ว่าจะมีอาการแตกหักหรือแผลที่ปรากฎเด่นชัดบนร่างกาย”
“เราถามคุณแม่ไปแล้วว่าน้องมีรอยฟกช้ำบนต้นขามาจากไหน แม่บอกว่าพ่อเป็นคนนวดให้น้อง แต่ใครจะนวดเด็กทารกได้แรงขนาดนี้ แรงถึงขนาดมีรอยช้ำเนี่ย”
จากการแจ้งตำรวจไปครั้งแรก น้อง Jung In ก็ไม่มาที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กไประยะหนึ่ง จนในวันที่ 20 มิถุนายน 2020 การแจ้งความครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้นโดยเพื่อนบ้านเป็นผู้พบน้อง Jung นอนหลับอยู่ในรถคนเดียวเพียงลำพัง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการสอบสวนได้ผลมาเช่นเดิม
หลังจากนั้นพ่อแม่ก็มักจะเก็บตัวน้อง Jung In ไว้แต่ในบ้าน ไม่ค่อยพามาส่งที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งน้องไปที่นั่นเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น
ในช่วงเวลาเดียวกัน ลูกสาวของทั้งพ่อแม่คู่นี้ยังคงมาที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นประจำไม่เคยขาด
ในเดือนกันยายน 2020 น้อง Jung In กลับมาที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กอีกครั้งด้วยสภาพร่างกายที่ผอมลงผิดปกติเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปรากฎว่าน้องน้ำหนักลดลงไปเกือบหนึ่งกิโลกรัม
คุณครูพี่เลี้ยงจึงรีบพาตัวน้อง Jung In เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน เมื่อแพทย์เห็นสภาพของน้องแล้วจึงตัดสินใจแจ้งความเป็นครั้งที่ 3 พร้อมกำชับว่าต้องแยกเด็กออกจากพ่อแม่ เพราะสิ่งที่ปรากฎออกมาคือการทำร้ายร่างกายเด็ก
“เด็กมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งความทำร้ายร่างกายเด็กมาก่อน ผมมั่นใจมากว่ามันเป็นเช่นนั้น เมื่อตำรวจมาถึงผมบอกพวกเขาพร้อมเกลี้ยกล่อมว่าเด็กควรอยู่ห่างจากพ่อแม่ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร ผมจึงคิดว่าน่าจะมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ผมกลับมารับรู้ทีหลังว่าน้องเสียชีวิต”
ก่อนวันที่น้องจะเสียชีวิต 12 ตุลาคม 2020 ครูพี่เลี้ยงในศูนย์รับเลี้ยงเด็กจำได้ว่าน้องอ้อนอยากให้กอดเล่นด้วย ครูก็พยายามดูตามร่างกายว่ามีแผลอะไรมาอีกหรือไม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าครูพบความผิดปกติบริเวณท้องของน้องด้วย
“น้องอาจมีโอกาสรอดชีวิตถ้าหากนำตัวมาส่งถึงโรงพยาบาลทันเวลา แต่ว่าน้องมาไม่ทันครับ”
ศาสตราจารย์ Namkoong Ihn กล่าวว่าเมื่อรับ Jung In เข้าแอทมิดที่โรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์กู้ชีพจรน้องให้กลับมาได้เพียงสั้นๆ
และในช่วงนั้นผลจากเครื่องซีทีสแกนก็ออกมา เผยให้เห็นว่าทั้งช่องท้องของน้องเต็มไปด้วยเลือด มาจากอวัยวะภายในเกิดการฉีกขาด เลือดจึงไหลเข้าสู่ช่องท้องจนเกิดการติดเชื้อภายใน น้องอาจจะรอดชีวิตหากนำตัวมาส่งให้เร็วกว่านี้ แต่โชคร้ายตรงที่มันสายไปเสียแล้ว
นอกจากนั้นผลเอกซเรย์ก็ยังเผยให้เห็นร่องรอยการแตกหักภายในที่พยายามซ่อมแซมตัวเอง ส่วนกระดูกหักอื่นๆ นั้นก็มีเกิดขึ้นใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน
“เคสของน้อง Jung In คือตัวอย่างของการทำร้ายร่างกายเด็กที่ควรถูกนำไปเป็นบทเรียนในตำรา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นร่องรอยกระดูกที่แตกหักในเด็กแบบนี้ เด็กที่เติบโตภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่”
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุดที่เกิดขึ้น เพราะพ่อแม่อุปถัมภ์ไม่เพียงแต่ทำร้ายร่างกายเด็ก มีรายงานเปิดเผยว่าพวกเขาอัดคลิปกว่า 800 คลิปขณะที่กำลังทรมานเด็กทารกทั้งทางร่างกายและจิตใจเก็บเอาไว้ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีถูกลงโทษ
สถานีตำรวจเขตยังช็อนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักหน่วง หลังจากที่สารคดีตอนนี้ถูกออกอากาศไปแล้ว เปิดเผยให้เห็นถึงความล้มเหลวของตำรวจในการให้ความช่วยเหลือเด็ก
ทางด้านตำรวจนครบาลกรุงโซลจึงได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 11 นายที่มีส่วนรับผิดชอบรับแจ้งความที่เกี่ยวกับน้อง Jung In ถูกลงโทษตามระเบียบวินัยจากการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ชาวเกาหลีใต้เองก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจกับคำแถลงดังกล่าว เนื่องจากคำว่า ‘ถูกลงโทษ’ เป็นเพียงแค่คำตักเตือนเท่านั้นและต้องการให้แสดงท่าทีที่หนักแน่นกว่านี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง
บ้างถึงขั้นให้ตั้งข้อหาฆาตกรรมเพื่อให้มีโทษสูงสุดเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เด็กเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย เป็นโทษจำคุก 15 ปี ซึ่งเป็นการรวบรวมรายชื่อโดยผู้ที่ต้องการให้ยกระดับคำฟ้องร้องแก่ผู้กระทำผิดเป็นจำนวนเกินกว่า 200,000 รายชื่อเลยทีเดียว
จนถึงตอนนี้ #JungInImSorry ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกชาวเน็ตพูดถึงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ Jung In และเป็นการไว้อาลัยแก่น้องที่ต้องสูญเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความโหดร้ายของผู้ใหญ่ในสังคม
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: koreajoongangdaily, allkpop, koreaboo
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น