ยังคงเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นได้แทบทุกวันในเรื่องของปริมาณอาหารที่ได้รับกับราคาที่ต้องจ่าย เมื่อลูกค้าสังเกตเห็นว่าราคาอาหารแพงเกินไปจนรับไม่ได้ จึงมีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียให้ชาวเน็ตช่วยกันพิจารณา
เรื่องราวของข้าวผัดกะเพราทะเลที่เผยแพร่ผ่านเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ by Kim Official ในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
เป็นการรับเรื่องร้องเรียนจากชาวเน็ตว่าตนได้สั่งข้าวผัดกะเพราทะเลมาทาน แต่กลับได้ปลาหมึกมาแค่ 3 ชิ้นและกุ้งอีก 1 ตัว ราคาจานนี้อยู่ที่ 70 บาท
ส่วนอีกเมนูยำวุ้นเส้นก็มีปริมาณหมึกกับกุ้งเท่าที่เห็นในภาพ โดยไม่รู้ว่าราคาเท่านี้แพงเกินไปหรือไม่ และโพสต์ดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
เกิดการแชร์ต่อและวิจารณ์ในเรื่องของคุณภาพ ปริมาณ และราคา ว่าสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหน…
จนกระทั่งในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เว็บไซต์ข่าวช่องวันรายงานว่าทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารดังกล่าวบริเวณริมหาดทรายน้อย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ทางด้านแม่ครัวของร้านระบุว่า ตามปกติเมื่อทำข้าวผัดกะเพราทะเล จะใส่กุ้งขาว 2 ตัวและหมึกขนาดกลาง นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ 1 ตัว เมื่อลงไปผัดแล้วหมึกจะหด ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้

ส่วนประเด็นราคาขายปกติอยู่ที่ 60 บาท มีไข่ดาวคิดเพิ่ม 10 บาทเป็น 70 บาทต่อจาน แต่ในภาพที่ไม่มีไข่ดาวแต่ถูกคิดเงิน 70 บาทนั้น แม่ครัวไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นคนเก็บเงิน คนเก็บเงินคือลูกสาวเจ้าของร้าน ส่วนยำวุ้นเส้นทะเลราคา 180 บาทคือราคาปกติ

ทางด้าน นายศุภนพ มัดจันทร์ รองหัวหน้างานเทศกิจ เทศบาลเมืองหัวหิน ระบุว่าหลังทราบเรื่องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานให้ปลัดเทศบาลและผู้บริหารได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้ว และอาจจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบร่วมอีกครั้ง
รายงานเบื้องต้นพบว่ามีรายการไม่ตรงตามเมนู 1 รายการ ข้าวผัดกะเพราทะเล 60 บาท แต่คิดเงินลูกค้า 70 บาท ตามภาพไม่มีไข่ดาว เมนูยำวุ้นเส้นเก็บตรงตามเมนู 180 บาท
ส่วนกรณีเข้าข่ายขายอาหารแพงหรือไม่ ต้องรอเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลงมาตรวจสอบอีกครั้ง

หากผู้บริโภคไปใช้บริการที่ใด ขอให้ตรวจสอบราคาเมนูอาหารให้ชัดเจนก่อนสั่ง หากพบว่ามีปริมาณไม่เหมาะสมหรือผิดปกติ ควรสอบถามร้านค้าในทันที
หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ควรแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามสอบถามข้อมูล และประสานงานแก้ไขให้ตรงจุด
แต่สำหรับกรณีนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้บริโภคที่เป็นผู้ได้รับความความเสียหายได้
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น