ดราม่าระหว่าง Kanye West และ Taylor Swift ยังคงเป็นเรื่องที่ใครหลายคนไม่มีวันลืมจริงๆ ค่ะ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
หากใครที่ยังไม่ทราบ #เหมียวนานะ ของเกริ่นคร่าวๆ ก่อนเลย ย้อนกลับไปในปี 2009 ขณะที่ Taylor วัย 19 ปีกำลังขึ้นไปรับรางวัล Best Female Video บนเวที VMA
จู่ๆ Kanye ก็กระโดดขึ้นเวทีและแย่งไมค์ของเธอไปพูด จากนั้นเขาก็ชื่นชม Beyoncé กลางเวที ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันจึงเป็นประเด็นที่หลายคนยกมาพูดถึงโดยเฉพาะเหล่าแฟนคลับของทั้งคู่
อ่านข่าว: ความจริงกระจ่าง สรุปดราม่า ‘คานเย-เทย์เลอร์’ หลังวิดีโอเต็มหลุด เผยเทย์เลอร์โดนใส่ร้าย
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่เคยทราบสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องราวนี้ว่าแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Kanye ทำสิ่งนี้ไปทำไม และล่าสุดเขาก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางรายการพอดแคสท์ Cannon’s Class แล้วค่ะ
Kanye ได้อธิบายให้ทางรายการฟังว่า สิ่งที่เขาทำกับ Taylor ในตอนนั้นมันคือความประสงค์ของพระเจ้า เขากล่าวว่า
“ในตอนนี้พระเจ้ากำลังบอกสิ่งนี้กับผมและเขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ มา นั่นก็แปลว่าเขาอยากให้ผมพูดเรื่องนี้ตอนนี้
ถ้าพระเจ้าไม่อยากให้ผมวิ่งขึ้นไปบนเวทีแล้วบอกว่า ‘Beyoncé ทำวิดีโอออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด’ เขาคงไม่จัดให้ผมนั่งอยู่แถวหน้าๆ หรอก
ผมคงได้นั่งแถวหลังๆ พวกเขาคงไม่ประกาศรางวัลนี้เป็นรางวัลแรก และเขาไม่อยากให้มันดูไร้สาระขนาดนี้
เพราะผมไม่เคยได้ยินชื่อเธอคนนี้มาก่อน เพลง Single Ladies คือหนึ่งในวิดีโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล”
หลังจากที่ Kanye กระโดดขึ้นเวทีจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกก็มีคนคาดเดาว่าเขาน่าจะดื่มบรั่นดียี่ห้อ Hennessy ที่เขาชอบพกมาบนพรมแดงงานต่างๆ เข้าไปเยอะพอสมควร
แต่เขาก็อธิบายว่าวันนั้นเขาไม่ได้เมาขนาดนั้น เขากล่าวต่อว่า
“ผมดื่มแค่ Hennessy เพราะผมไม่อยากขึ้นไปรับรางวัลเพราะมันถูกจัดฉากต่างหากล่ะ”
หลังจากคืนนั้นในปี 2009 แร็ปเปอร์หนุ่มคนนี้ก็เริ่มอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลอย่างจริงจัง ซึ่งเริ่มอ่านครั้งแรกตอนที่เขาเริ่มเข้ารักษาจิตใจในโรงพยาบาลจิตเวช เขากล่าวปิดท้ายว่า
“พระเจ้าทำให้ผมยอมแพ้ต่อเขาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งแรกที่ผมเข้าโรงพยาบาลในปี 2016 คือตอนที่ผมเริ่มอ่านไบเบิลอย่างจริงจัง
นั่นคือส่วนหนึ่งที่พระเจ้าสอนผม คุณรู้ไหม พระเจ้าทรงเรียกหาเราทุกคนและเขาก็ใช้เราไปในหนทางที่แตกต่างกัน…”
ลองฟังบทสัมภาษณ์เต็มๆ ได้ด้านล่างนี้เลย
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: ladbible, nypost, businessinsider
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น