เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ชายชาวอเมริกันคนหนึ่งทำงานกับ NPO ท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อเด็กชาวเคนยา
ชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ในชุมชนสลัมของเคนยา และวันหนึ่งขณะที่เขาเดินไปรอบๆ ในละแวกนั้น เขาก็ได้พบลูกแมวตัวหนึ่ง
ลูกแมวตัวนี้ตัวเล็กและผอมมาก เนื่องจากอดหยาก เขาจึงเอาอาหารให้มัน และเมื่อมันกินอิ่ม มันก็ตกหลุมรักเขาทันที จากนั้นก็เริ่มเดินตามเขาอย่างไม่ลดละ
ชายชาวอเมริกันไม่สามารถทิ้งลูกแมวไว้ที่นั่นเพียงลำพังได้ เขาจึงตัดสินใจอุ้มมันกลับบ้านด้วย ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า นารา
ในเมืองที่ชายคนนี้อาศัยอยู่มีร้านสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่กี่แห่ง แต่ที่สุดแล้วเขาก็สามารถหาซื้อกระบะทรายแมวจนได้ เขาก็สอนนาราใช้กระบะทราย โชคดีที่แมวน้อยเรียนรู้เร็วและปรับตัวกับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี
ตั้งแต่นั้น แมวส้มตัวน้อยก็ติดชายหนุ่มมากๆ มันไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่แม้เพียงเสี้ยววินาที แม้แต่ตอนทำงาน มันจะไปนอนอยู่หน้าคอม ขัดขวางการทำงานของเขา เพื่อให้เขาสนใจมันแต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งบางครั้งตัวชายหนุ่มเอง ก็ต้องพักจากการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาไม่สามารถต้านทานลูกอ้อนของนาราได้
ชายหนุ่มบอกว่า “จริงๆ แล้วผมค่อนข้างรู้สึกทึ่งที่ลูกแมวตัวนี้สุขภาพแข็งและมีชีวิตรอดมาได้ เพราะในเคนยา ผู้คนส่วนใหญ่เห็นแมวเป็นสัตว์ที่ปกป้องพืชผลจากหนู ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง ดังนั้นหากไม่มีประโยชน์ พวกมันก็จะไม่รับการเหลียวแล”
นาราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและคอยอยู่เคียงข้างชายตลอดเวลา ชายหนุ่มเองก็รู้สึกโชคดีที่รับนุ้งแมวเข้ามาในชีวิต เพราะมันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นเสมอ
ในปี 2016 นาราได้ย้ายไปอยู่อมริกากับทาส และตอนนี้มันได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย และดูเหมือนมันจะชอบบ้านใหม่มาก เพราะทันทีที่มาถึง มันก็อ้างว่าบ้านนี้เป็นของมัน
แม้เวลาจะเปลี่ยนไป ตัวจะโตขึ้นและย้ายที่อยู่อาศัย แต่หัวใจของนาราไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันยังคงรักและชอบเดินตามชายหนุ่มเสมอ
สำหรับนาราแล้ว ไม่สำคัญว่ามันจะอยู่ประเทศอะไร อยู่บ้านหลังไหน สภาพบ้านเป็นยังไง เพราะสิ่งสำคัญคือ การได้อยู่กับคนที่มันรัก และคำว่าบ้านสำหรับมัน คือชายใจที่ช่วยชีวิตมันไว้ในวันนั้น
ที่มา eureka
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น