ในบ้านเราการทานพิซซ่าหน้า “ฮาวายเอี้ยน” ถือเป็นเรื่องปรกติ และเป็นหน้าโปรดของใครหลายๆ คนเลยด้วยซ้ำ
แต่สำหรับชาวยุโรปแล้ว การนำเอา “สัปปะรด” หรือผลไม้ต่างๆ ไปไว้บนหน้าพิซซ่า ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง!!
หากเพื่อนๆ จินตนาการไม่ออกว่ามันจริงจังถึงขั้นไหน ลองไปอ่านเรื่องราวต่อไปนี้กันดูครับ…
อย่างล่าสุดก็มีหนุ่มรายหนึ่งชื่อว่า Stellan Johansson จากเมือง Skottorp ประเทศสวีเดน ที่เพิ่งจะได้ทำเรื่องผิดพลาดไป
เพราะพี่แกดันไปอบพิซซ่า “หน้ากีวี่” แล้วเอามาโพสต์ลงในโลกออนไลน์จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต
นาย Stellan เล่าว่า “ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นชาวนอร์เวย์ ชื่อว่า Bjørn เขามักจะพูดถึงพิซซ่าหน้ากล้วยอยูู่บ่อยๆ และบอกว่าเขาอยากจะลิ้มลองมันสักครั้ง ผมก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาทำตามแบบของเขาแต่เปลี่ยนจากกล้วยให้เป็นกีวี่แทน”
“ความแตกต่างระหว่างผมกับ Bjørn ก็คือ เขาแค่พูดเล่นๆ แต่ผมอ่ะ ทำขึ้นมาจริงๆ แล้วก็กินมันจริงๆ!!”
พี่ Stellan (ขวา) กับพิซซ่าหน้ากีวี่ของเขา
ภาพพิซซ่าหน้ากีวี่ของนาย Stellan ถูกเอาไปแชร์ในเว็บไซต์ Reddit และก็โดนบรรดาชาวเน็ตด่ากันแบบชนิดที่ว่า “เทสาดเทเสีย” กันเลยทีเดียว
ชาวเน็ตหลายคนต่างก็มองว่ามันคือ “อาหารที่น่าสะอิดสะเอียน” แค่สับปะรดก็กระอักกระอ่วนเต็มทนแล้ว นี่ยังต้องมาเห็นอะไรแบบนี้อีกเหรอ!?
นาย Stellan เองก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เพราะหลังจากที่ลงภาพดังกล่าวไปมันก็ดังระเบิด มีนักข่าวติดต่อมาขอสัมภาษณ์มากมาย ทั้งๆ ที่ตอนแรกเขาตั้งใจทำให้มันดู “ขำ” เท่านั้นเอง
แต่ผลของมันกลับทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างไป ทั้งความเป็นส่วนตัว รวมไปถึง “ภรรยา” ด้วย
Stellan เล่าว่าหลังจากที่ภรรยาทราบว่าเขาเป็นคนต้นคิดเรื่องพิซซ่ากีวี่ ก็โดนภรรยาบอกเลิกและขอหย่า โดยให้เหตุผลว่า “มันเป็นไอเดียที่โง่เง่าสิ้นดี”
“ตั้งแต่ที่ผมทำพิซซ่ากีวี่นี้ขึ้นมาก็เดือนมกราคมแล้ว จากนั้นโลกของผมก็เปลี่ยนไปมากเลย มันพังทลายลง ภรรยาของผมบอกเลิกและขอหย่า”
“แม้ว่าพิซซ่าหน้ากีวี่นี้จะไม่ได้เป็นต้นเหตุของการระบาดของไวรัสโคโรน่า แต่ผมก็เป็นตัวการที่ทำให้มันเกิดขึ้นมา และมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องเลิกกับภรรยา”
นอกจากเรื่องของภรรยาแล้ว นาย Stellan เล่าว่าเขาต้องรับมือกับคำขู่ต่างๆ จากชาวเน็ตที่ส่งเข้ามามากมายกว่า 50 คอมเมนต์
ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวกับการที่ “เขาเป็นคนทำลายวัฒนธรรมการกินพิซซ่าของชาวอิตาเลียน และสมควรตาย”
อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ขณะที่ชาวเน็ตอีกหลายคนก็เข้ามาคอมเมนต์กันแบบสนุกขำขันแบบที่เขาตั้งใจเอาไว้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เก็บเรื่องลบๆ มาใส่ใจ
“ผมไม่ได้เก็บเรื่องคำขู่มาใส่ใจอะไรขนาดนั้นนะ แต่มองว่ามันก็แค่ขำๆ ซะมากกว่า” Stellan กล่าวทิ้งท้าย
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น