การฉ้อโกงของครูจากจังหวัดขอนแก่นก่อให้เกิดความไม่พอใจของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก โดยที่เรื่องนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของชาวบ้านถูกนำไปใช้สวมสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง นำไปสู่การแจ้งความเพื่อเอาผิดครูทั้งสองรายนี้
ชาวบ้านจากหมู่บ้านโนนค้อ ตำบลโคกงาม อำเภอบ้างฝาง จังหวัดขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความ นางบุหงา (ครูฝน) และว่าที่ร้อยตรีดอกเตอร์ภูผาภูมิ (ครูภูผา)
จากการชักชวนชาวบ้านให้นำข้อมูลบัตรประชาชนเพื่อแลกเงินสด 200 บาท แต่ปรากฎว่าข้อมูลบนบัตรประชาชนของชาวบ้านถูกนำไปใช้ลงทะเบียนสวมสิทธิ์คนละครึ่ง
หลังจากนั้นครูภูผาจึงเสนอเงินจำนวน 2,000 บาท ให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายเพื่อแลกกับการไม่เอาผิดตน แต่ทว่าชาวบ้านไม่ยอมจนครูทั้งสองรายถูกจับกุมในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดขอนแก่นสอบปากคำครูภูผา ผู้ต้องหาในคดีร่วมกับครูฝน ฉ้อโกงประชาชนนำบัตรประจำตัวประชาชนผู้อื่นไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม และข้อหาตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับครูภูผา และขอหมายค้นเข้าตรวจ 3 ที่ คือบ้านครูภูผา บ้านแม่ครูภูผาและบ้านครูฝน
เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นเอกสารและสมุดบัญชีรายชื่อชาวบ้าน จึงยึดไว้เป็นของกลางและพบครูภูผาในบ้านจึงควบคุมตัวมาสอบสวน
รายการ ข่าว 3 มิติ รายงานว่า พบการฉ้อโกงในพื้นที่ 2 อำเภอได้แก่บ้านฝางและท่าเรือ ผู้เสียหายเกือบ 200 คนถูกเอาบัตรประชาชนไปสวมสิทธิ์
โดยรูปแบบการก่อเหตุคือจะตระเวนเข้าไปในชุมชนเสนอเงิน 200 บาท อ้างว่าเป็นเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ ขอเก็บบัตรประชาชนทุกคนเพื่อนำไปลงทะเบียน
แต่ในความเป็นจริงคือข้อมูลส่วนนี้ถูกนำไปลงทะเบียนซิม ใช้สมัครเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง
ชาวบ้านจึงพบความผิดปกติเพราะตนลงทะเบียนเองไม่ได้ แล้วก็มียอดการใช้จ่ายเงินในโครงการปรากฎในแอปฯ เป๋าตัง ของพวกคน
เมื่อทำการตรวจสอบผ่านแอปฯ พบว่ามียอดจองห้องพักโผล่มาแบบผิดปกติ ภายในคืนเดียวมียอดจองและเข้าพักรีสอร์ตมากถึง 10 ห้อง แต่ที่รีสอร์ตแห่งนี้มีห้องพักเพียง 7 ห้องเท่านั้น
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: ch3plus
Advertisement